ไร้กล้อง - วงจรปิดตามเสาไฟฟ้า และแยกต่างๆ บนถนนราชดำเนิน ซึ่งส่วนใหญ่ไม่มีกล้องอยู่ภายใน ไม่สามารถใช้การได้จริง โดยกทม.ยอมรับมีอยู่ 500 จุดทั่วกรุง อ้างว่าติดไว้หลอกผู้ชุมนุม เมื่อวันที่ 19 ก.ย. |
เมื่อวันที่ 19 ก.ย. นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ให้สัมภาษณ์จากกรณีเว็บไซต์พันทิป ดอตคอม โพสต์กระทู้ว่า กทม.ติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (ซีซีทีวี) โดยไม่มีอุปกรณ์ภายใน ว่า โครงการดังกล่าวเกิดขึ้นสมัยนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน เป็นผู้ว่าฯกทม. โดยสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) ได้ติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อดูแลพื้นที่กทม. โดยเฉพาะช่วงที่มีการชุมนุมทางการเมือง เดือนเม.ย.2552 เป็นต้นมา แต่ปรากฏว่าทางกทม.ในขณะนั้น ไม่มีงบประมาณเพียงพอในการดำเนินการ จึงมีแนวคิดให้ติดตั้งกล้องหลอก หรือกล้องดัมมี่ ในการเฝ้าระวังพื้นที่การชุมนุม เพื่อให้ผู้ชุมนุมเกิดความเกรงกลัวในการกระทำความผิดต่อชีวิตและทรัพย์สิน
รองผู้ว่าฯกทม. กล่าวอีกว่า แต่เมื่อมาถึงม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร เป็นผู้ว่าฯกทม. มีโครงการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดในพื้นที่กรุงเทพฯ ตามนโยบายประชาวิวัตน์ของรัฐบาล จำนวน 2 หมื่นตัวทั่วกทม. และติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง แต่เจ้าหน้าที่นำป้ายประชาสัมพันธ์ไปติดที่บริเวณเสาของกล้องดัมมี่ จึงทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด ตนจึงสั่งการให้ สจส.เร่งแก้ไข และชี้แจงประชาชน โดยเร็วที่สุด
ด้านนายสุธน อาณากุล ผอ.กองพัฒนาระบบจราจร สำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) กล่าวว่า กล้องดัมมี่มีอยู่ทั่วกทม. ประมาณ 500 จุด อาทิ บริเวณร.พ. หรือโรงเรียนต่างๆ รวมทั้งบริเวณที่มักมีการชุมนุมทางการเมือง หรือชุมนุมต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตพระนคร จะติดตั้งกล้องดัมมี่ทั่วถนนราชดำเนิน และเขตดุสิต ซึ่งขณะนั้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและประชาชน มาขอภาพ เพื่อนำไปเป็นหลักฐานดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด แต่กทม.จะระบุว่ากล้องเสีย แต่ที่สุดแล้วเมื่อประชาชนรับทราบข้อเท็จจริงว่าเป็นกล้องดัมมี่ ตนก็ต้องขอโทษด้วย
ผอ.กองพัฒนาระบบจราจร สจส. กล่าวด้วยว่า จากนี้ไปจะเร่งแก้ไขโดยนำกล้องจริงมาติดตั้งในจุดที่เป็นกล้องดัมมี่โดยเร็ว เพื่อให้สามารถใช้งานได้จริง อย่างไรก็ตาม ในส่วนของโครงการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดในพื้นที่กรุงเทพฯ ตามนโยบายประชาวิวัตน์ของรัฐบาล จำนวน 1 หมื่นตัวนั้น สามารถใช้การได้จริงและจะติดตั้งเพิ่มเติมอีก 2 หมื่นตัวภายในต้นปี 2555
0 comments:
Post a Comment