จี้ยุบ"คอป." - ภาพเหตุการณ์น้องเฌอ น.ร.วัย 17 ปี ถูกสไนเปอร์ยิงเสียชีวิตในซอยรางน้ำเมื่อ 15 พ.ค.53 ล่าสุดนายพันธ์ศักดิ์ ศรี เทพ ผู้เป็นพ่อเรียกร้องให้รัฐบาลหาตัวคนผิดมาลงโทษ พร้อมเสนอยุบคอป. ตามข่าว |
วันที่ 5 ก.ย. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบนายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 130 หมู่ 2 ต.โสนลอย อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี บิดาของ นายสมาพันธ์ หรือน้องเฌอ อายุ 17 ปี หนึ่งในเหยื่อสไนเปอร์เสียชีวิตจากเหตุ การณ์กระชับพื้นที่บริเวณซอยรางน้ำ ย่านดินแดง เมื่อวันที่ 15 พ.ค.53 โดยนายพันธ์ศักดิ์ กล่าวว่า ตนพยายามติดตามความคืบหน้าของคดี เพื่อทวงความยุติธรรมให้น้องเฌอตลอดมา โดยพยายามรวบรวมกลุ่มญาติผู้เสียชีวิตเพื่อต่อสู้ร่วมกันในนามคณะกรรมการกลุ่มญาติวีรชน เม.ย.-พ.ค.53 โดยมีนายบรรเจิด ฟุ้งกลิ่นจันทร์ พ่อของนายเทิดศักดิ์ ที่เสียชีวิตในวันที่ 10 เม.ย. ที่สี่แยกคอกวัวเป็นประธาน ซึ่งจะเดินหน้าทวงความยุติธรรมต่อไป แม้ว่าจะมีกลุ่มญาติผู้เสียชีวิตคนอื่นไม่เห็นด้วย เพราะเห็นว่าไม่สะดวกและล่าช้า ก็ขอให้แต่ละกลุ่มดำเนินไปตามแนวทางของตัวเองต่อไป
"กลุ่มญาติผู้เสียชีวิตได้ออกแถลงการณ์ไปแล้ว ว่า ไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาลก็ต้องทำความจริงให้ปรากฏ และแม้ว่านายกฯ คนใหม่เห็นว่าควรให้เป็นหน้าที่ของคอป. แต่เราเห็นว่าคอป. ทำหน้าที่ไม่ได้อีกแล้ว เพราะเป็นกรรมการที่เกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดที่แล้ว ซึ่งเป็นต้นเรื่อง และคอป.ก็ไม่ได้รับความร่วมมือจากคนเสื้อแดงเท่าที่ควร ที่สำคัญเวลาจะขอเอกสารอะไรจากศอฉ.ก็ไม่เคยได้รับความร่วมมือ จึงควรตั้งกรรมการชุดใหม่ขึ้นมา โดยมีที่มาจากสภา ที่ประกอบไปด้วยรัฐบาลและฝ่ายค้าน ในรูปของกรรมาธิการวิสามัญ ส่วนเรื่องคดีอาญาก็ต้อง เร่งให้เป็นไปตามกระบวนการ เพราะที่ผ่านมาล่าช้าเหลือเกิน" นายพันธ์ศักดิ์กล่าว
นายพันธ์ศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนความคืบหน้าด้านของคดีต่างๆ ก็มีเรื่องฟ้องแพ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาที่ศาล และอาจารย์ด้านกฎหมาย จากกลุ่มนิติราษฎร์ เสนอว่าควรจะฟ้องกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 เพราะถือว่าเรื่องผ่านมานานแล้ว คดีน่าจะขึ้นสู่ศาล แต่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ยังเก็บเรื่องไว้อยู่ อย่างไรก็ตาม ยังมีปัญหาว่าญาติบางส่วนไม่ทราบว่าคดีอยู่ในความดูแลของสน.ท้องที่ หรือดีเอสไอ ทำให้เกิดความสับสน
อิสรภาพ - นางนฤมล วรุณรุ่ง โรจน์ สาวนปช.สวม กอดญาติที่มารอรับหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ หลังศาลอุทธรณ์ให้ประกันตัวคดียิงฮ. เมื่อวันที่ 5 ก.ย. |
นายพันธ์ศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนเรื่องการเยียวยา ขณะนี้ญาติของผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต บางคนยังไม่ได้รับการเยียวยาจากภาครัฐ บางคนก็ มองถึงเงิน 10 ล้านบาท อย่างที่แกนนำระบุไป เพราะเขาถือว่าต่อสู้มากับเสื้อแดง แต่ครอบครัวของตนคิดว่ามันไม่เกี่ยวกับเรื่องเงิน เพียงแต่ต้องการให้ไม่ว่ารัฐบาลใดเข้ามาก็ต้องเร่งรัดคดี ไม่มีการนิรโทษกรรม ไม่มีการปรองดอง ถ้าคนสั่งฆ่ายังลอยนวลอยู่ได้ เพราะต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าใครสั่งฆ่าเด็กอายุ 17 กลางถนนในเมืองหลวง ทั้งที่พูดกันว่าเมืองไทยเป็นเมืองพุทธ แต่ก็เกิดเรื่องพรรค์นี้ขึ้นมาได้ จึงต้องทำให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้ในอนาคตเกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก คนที่สั่งฆ่าจะได้รู้ว่าทำไม่ได้อีกง่ายๆ ต่อไปแล้ว
ที่กระทรวงยุติธรรม พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่ญาติผู้เสียชีวิตจากการสลายการชุมนุมปีที่ผ่านมา และกลุ่มคนเสื้อแดงออกมาเรียกร้องให้ทางกระ ทรวงยุติธรรมปลดนายธาริต เพ็งดิษฐ อธิบดี ดีเอสไอ ว่า การเรียกร้องของกลุ่มคนเสื้อแดงก็เป็นเรื่องของการเรียกร้อง แต่การพิจารณาปรับตำแหน่งนั้นเป็นเรื่องของกระทรวง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงเกษียณอายุ 3 ตำแหน่ง จึงต้องเสนอปรับตำแหน่งให้เหมาะสม ส่วนตำแหน่งอธิบดีดีเอสไอตนเห็นควรให้ทำงานไปก่อน และจะขอดูประสิทธิภาพการทำงานไปก่อน
วันเดียวกัน นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนาย ความแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เผยถึงการยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว นางนฤมล หรือ "จ๋า" วรุณรุ่งโรจน์ นายสุรชัย หรือ "ปลา" นิลโสภา และนายชาตรี หรือ "หมู" ศรีจินดา สามแนวร่วมนปช. จำเลยคดีร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง และใช้เอกสารราชการปลอม โดยบรรยายฟ้องว่าร่วมกันใช้ประทัดยิงใส่เฮลิคอปเตอร์ทหาร เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 53 ที่ศาลจังหวัดพระโขนง พิพากษายกฟ้องไปก่อนหน้านี้ แต่ให้ขังไว้ระหว่างอุทธรณ์คดี ว่า ภายหลังจากศาลชั้นต้นพิจารณาส่งคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวแล้วเห็นควรส่งให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาคำร้อง แล้วล่าสุดศาลอุทธรณ์มีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว 3 จำเลย โดยตีราคาประกันเป็นวงเงินคนละ 5 แสนบาท และไม่มีการกำหนดเงื่อนไข โดยจะใช้ตำแหน่ง ส.ส.พรรคเพื่อไทย จำนวน 3 คน เป็นนายประกันให้แก่แนวร่วมนปช.ทั้ง 3 คน
เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ห้องพิจารณา 902 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสอบคำให้การจำเลย และตรวจพยานหลักฐานในคดีหมายเลขดำ อ.2740/2553 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก อายุ 53 ปี ผู้ช่วยเลขานุการ รมว.มหาดไทย แกนนำแนวร่วมกลุ่มประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เป็นจำเลยให้ความผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่นแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ ในการปราศรัยเมื่อวันที่ 29 มี.ค.53 โดยคดีนี้จำเลยปฏิเสธภายหลังที่เคยรับสารภาพ จึงให้ดำเนินกระบวนการพิจารณาคดีใหม่ เมื่อศาลอ่านคำฟ้องแล้ว จำเลยให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ศาลจึงนัดพร้อมคู่ความเพื่อตรวจพยานหลักฐานอีกครั้งในวันที่ 27 ก.ย. เวลา 09.00 น.
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงการตั้งหมู่บ้านแดงที่ภาคใต้ ซึ่งเป็นฐานของพรรคประชาธิปัตย์ ว่า ประเด็นไม่ได้อยู่ที่เป็นถิ่นใคร ฐานเสียงใคร แต่รัฐบาลที่ยืนยันว่ามีนโยบายสมานฉันท์ น่าจะส่งสัญญาณให้ชัดว่าการแบ่งแยกประชาชนไม่เอื้อต่อความปรองดอง รมว. มหาดไทย เคยกล่าวไว้ในลักษณะนี้ คงต้องไปติดตามดูว่าสวนทางกับสิ่งที่พูดหรือไม่
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงแกนนำกลุ่มคน เสื้อแดงเปิดหมู่บ้านเสื้อแดงในพื้นที่ภาคใต้ ว่า ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ สังคมพยายามร้องขอว่าอย่าทำอะไรที่เป็นชนวนให้เกิดความแตกแยก แต่ขบวนการเสื้อแดงไม่หยุด พยายามขยายพื้นที่หมู่บ้านเสื้อแดงลงไปในพื้นที่อื่นๆ และที่จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นบ้านตน ก็ไปเปิดสำนัก งานแล้ว โดยวันนั้น น.พ.เหวง โตจิราการ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำคน เสื้อแดง และนางธิดา โตจิราการ รักษาการประธานนปช.ก็นั่งเครื่องไปเที่ยวบินเดียวกัน กับตน และได้คุยกัน ซึ่งตนเห็นว่าการเผยแพร่อุดมการณ์ความคิดลัทธิแดงก็ทำไป แต่จะปลุกระดมให้ประชาชนลุกขึ้นมาโค่นล้มกัน แบ่งฝักแบ่งฝ่ายกัน ถือเป็นผลร้ายกับประเทศชาติ
"ถ้าเสื้อแดงไปจัดตั้งกลุ่มคนเสื้อแดง อบรม ปลุกระดม ให้มีการแบ่งแยกทางชนชั้น แล้วลุกขึ้นมาทำให้เกิดปัญหากับบ้านเมือง ก็จะทำให้เกิดความเสียหาย และขอให้ฝ่ายที่ตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณ ต้องติดตามให้ดี เพราะเป็นห่วงว่าเขาจะใช้งบประมาณแผ่นดิน เอื้อประโยชน์ในการขยายลัทธิเสื้อแดง แม้หลายคนมาวิจารณ์ว่า ตนพูดเพื่อปลุกผีคอมมิวนิสต์ แต่ขอให้ดูต่อไปก็จะเห็นเอง รวมทั้งเป็นห่วงและไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งที่จะให้ อาสาสมัครมีอาวุธได้ เพราะคนพวกนี้พยายามที่จะจัดตั้งกองกำลังติดอาวุธของตนเองขึ้นมา ที่นี้ก็จะทำให้ชุดดำเป็นชุดที่ถูกกฎหมายขึ้นมา ซึ่งจะเป็นปัญหากับบ้านเมือง" นายสุเทพกล่าว
ส่วนกรณีที่นางพะเยาว์ ฮัคฮาด แม่น.ส. กมนเกด ฮัคฮาด อาสาพยาบาลที่ถูกยิงเสีย ชีวิตที่วัดปทุมวนาราม เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 53 คัดค้านการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารจนกว่าการสอบสวนข้อเท็จจริงการสลายการชุมนุมเสร็จสิ้น นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ใช่หน้าที่ของคนเสื้อแดง และไม่มีสิทธิ์ด้วย เพราะไม่มีกฎหมายไหนระบุรับรองอำนาจหน้าที่ของคนเสื้อแดงเกี่ยวกับการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการหรือทหารได้ และถ้ารมว.กลาโหม ไปเปลี่ยนแปลงโผบัญชีรายชื่อแต่งตั้งตามแรงกดดันของคนเสื้อแดง ก็ถือว่าทำผิด
"กองทัพหรือทหารทุกคนในกองทัพไม่ได้เป็นอริกับคนเสื้อแดงหรือคนเสื้อสีไหน เขาทำหน้าที่ตามที่ได้รับคำสั่งโดยชอบด้วยกฎหมายจากผู้บังคับบัญชาตามระดับชั้น หรือคำสั่งของรัฐบาล ผมไม่เคยได้ยินว่าทหารเขามองเสื้อแดงเป็นศัตรู ในทางกลับกันทหารเข้าใจมวลชนคนเสื้อแดงทั้งประเทศ เพราะมีเฉพาะคนที่ทำผิดกฎหมายชัดเจนเท่านั้น ที่ถูกดำเนินคดี และในการดำเนินคดีทหารก็ไม่เข้าไปเกี่ยวข้อง เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตำรวจ และกระบวนการยุติธรรม" นายสุเทพ กล่าว
เมื่อถามว่าเกรงหรือไม่ว่าหากคนเสื้อแดง เข้ามาวุ่นวาย จนทหารเกิดความไม่พอใจ จะทำให้เหตุการณ์บ้านเมืองวุ่นวายอีกครั้ง นาย สุเทพ กล่าวว่า ยังไม่คิดถึงขนาดนั้น แต่อยากเห็นคนไทยทุกกลุ่ม ทุกภาคส่วน ตื่นตัว ติดตามสถานการณ์ทางการเมือง ถ้าเห็นว่าลัทธิแดงทำร้ายบ้านเมือง ทำร้ายประเทศชาติ ก็ต้องช่วยกันระงับยับยั้ง
เมื่อถามว่าฝ่ายค้านจะควบคุมดูแลอะไรได้บ้าง นายสุเทพ กล่าวว่า หากมีการโยกย้ายแต่งตั้งข้าราชการไม่ชอบด้วยเหตุผลและเป็นธรรม พวกตนก็มีสิทธิ์ตั้งกระทู้ถามและเสนอญัตติอภิปราย แสดงความไม่เห็นด้วยได้ ส่วนที่ร.ต.อ. เฉลิม ท้าว่าให้รีบตั้งกระทู้นั้น ตนคิดว่าร.ต.อ. เฉลิม ไม่ต้องท้า เพราะปากกล้าไปเช่นนั้นเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า การประชุมสภาวันที่ 7 ก.ย. มีการบรรจุระเบียบวาระพิจารณาเรื่องด่วนการขออนุญาตสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาสละสิทธิ์ความคุ้มกันของส.ส. 9 คน ตามมาตรา 131 ของรัฐธรรม นูญ ตามที่นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบ สวนคดีพิเศษ ทำหนังสือที่ ยธ.0805/2388 ถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 18 ส.ค. 54 ระบุว่า จากกกรณีที่ดีเอสไอได้แจ้งข้อหากระทำความผิดตามกฎหมายอาญาในลักษณะความผิดที่เกี่ยวกับความมั่นคงในราชอาณาจักร กับบุคคลที่เป็นส.ส.ทั้ง 9 ประกอบด้วย น.พ. เหวง โตจิราการ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท นายก่อแก้ว พิกุลทอง นายพายัพ ปั้นเกตุ นายวิเชียร ขาวขำ นายการุณ โหสกุล และจ.ส.ต. ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ โดยบุคคลทั้ง 9 ไม่ประสงค์จะใช้สิทธิ์คุ้มกันตามรัฐธรรมนูญ จึงขอให้สภาผู้แทนฯ พิจารณาการขอสละสิทธิ์คุ้มครองและแจ้งให้กรมสอบสวนคดีพิเศษทราบต่อไป
0 comments:
Post a Comment