นางเงิน และนายสมชาย เจียมพูล |
เมื่อวันที่ 3 ก.ย. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่แฟลตดินแดง อาคาร 37 บ้านเลขที่ 665 แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม. ที่พักของนายสมชาย และนางเงิน เจียมพูล พ่อแม่นายทิพเนตร เจียมพูล หรือ ′เปี๊ยก′ อายุ 32 ปี ผู้ชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง ที่เสียชีวิตจากเหตุสลายการชุมนุมเดือนพ.ค. 2553
นายสมชายกล่าวว่า เปี๊ยกเป็นลูกชายคนที่ 3 จากทั้งหมด 6 คน ซึ่งถือเป็นหลักของครอบครัว เพราะพี่น้องคนอื่น ยกเว้นน้องคนเล็ก แยกย้ายไปอยู่ที่อื่นหมดแล้ว เปี๊ยกเป็นคนขยันขันแข็ง รักเพื่อนฝูง รักความยุติธรรม เมื่อตอนมีชีวิตอยู่ทุกเช้าจะไปช่วยแม่จัดของที่ร้านขายเสื้อผ้า และร้านขายน้ำ ใกล้ๆ ห้างบิ๊กซี ราชประสงค์ พอตนและภรรยาไปถึงก็ขายของได้เลย ไม่ต้องเหนื่อยจัดร้านเอง พอว่างจากงานที่ร้านเปี๊ยกจะไปรับจ้างเข็นของจากแม่ค้าแถวนั้น เมื่อมีการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่แยกราชประสงค์ เปี๊ยกใช้เวลาที่ว่างงานเข้าร่วมชุมนุม เพราะเห็นว่าการเรียกร้องประชาธิปไตยเป็นสิ่งถูกต้อง
คอนเสิร์ตแดง - กลุ่มนปช.จัดคอน เสิร์ต "ต้อนรับวันอิสรภาพ ลมหายใจที่ไม่แพ้" มีนายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และแกนนำเสื้อแดงหลายคนขึ้นเวที ร้องเพลงอยางสนุกสนาน ที่อิมพีเรียล ลาดพร้าว |
นายสมชาย กล่าวต่อว่า วันเกิดเหตุที่เปี๊ยกเสียชีวิต คือวันที่ 14 พ.ค.2553 เปี๊ยกบอกว่าอยากจะเข้าไปดูที่ร้าน เพราะเป็นห่วงว่าจะไม่ปลอดภัย ตนเตือนว่าอย่าไปนาน ให้ รีบกลับบ้าน เพราะเหตุการณ์เริ่มตึงเครียดมาก แต่พอเวลาประมาณ 23.30 น.มีคนโทรศัพท์มาบอกว่าลูกชายถูกยิงตรงซอยรางน้ำเสียชีวิตแล้ว ให้ไปรับศพที่ร.พ.ราช วิถี แต่พอไปถึงได้รับแจ้งว่าศพของเปี๊ยกไปอยู่ที่ร.พ.รามาธิบดีแล้ว
"หลังเปี๊ยกตายเราได้เงินเยียวยาจากรัฐบาล 4 แสนบาท และจากพรรคเพื่อไทย 120,000 บาท แต่เงินที่ได้มาหมดไปกับการเลี้ยงดูหลาน ใช้จ่ายในบ้าน ที่สำคัญคือหมดไปกับค่าเดินทางไปยังหน่วยงานของรัฐ เช่น กรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อตามเรียกร้องความยุติธรรมให้ลูก ผมเข้าใจดีว่าชีวิตมนุษย์ ไม่ได้มีค่าแค่เงิน หวังว่ารัฐบาลชุดใหม่จะให้ความยุติธรรมกับประชาชนในการติดตามคนสั่งฆ่ามาลงโทษ"นายสมชายกล่าว
ด้านนางเงินกล่าวว่า ตอนรับโทรศัพท์แล้วได้ยินว่าลูกเสียชีวิต เสียใจและตกใจมาก เพราะลูกเป็นแค่คนไปเรียกร้องประชาธิปไตย เจ้าหน้าที่ไม่น่าใช้ความรุนแรงกับประชาชน ตนเลี้ยงลูกมา 6 คน ไม่เคยสอนให้ใช้ความรุนแรง ไม่ให้ไปมีเรื่องทุบตี แต่ให้ขยันค้าขาย ทำงาน ช่วยเหลือผู้อื่น เมื่อลูกเห็นว่าบ้านเมืองไม่เป็นประชาธิปไตยก็ไปหาความยุติธรรมเท่านั้น
นางเงินกล่าวต่อว่า เมื่อลูกชายเสียชีวิต ที่บ้านก็ลำบากมากขึ้น เพราะขาดคนช่วยทำงาน และเปี๊ยกเองก็มีลูกสาวอยู่ 1 คน อายุ 13 ปี ชื่อ ′น้องทอฟฟี่′ กำลังเรียนอยู่ชั้น ม.2 ซึ่งแม่ของเด็กไปมีครอบครัวใหม่ตั้งแต่หลานอายุได้ไม่กี่วัน ตนและสามีรวมทั้งลูกชายจึงช่วยกันเลี้ยงดูหลานกันมาตลอด
"หลานมีโรคเลือดเป็นโรคประจำตัวมาตั้งแต่เกิด ต้องถ่ายเลือดทุก 6 เดือน ไม่สบายบ่อยทำให้มีค่าใช้จ่ายมาก ไปถ่ายเลือดครั้งนึงเสียค่าใช้จ่ายครั้งละ 3,300 บาท ยิ่งมาเสียเปี๊ยกไป ก็ยิ่งลำบาก ช่วงแรกๆน้องทอฟฟี่ทำใจไม่ได้ ที่ต้องรู้ว่าพ่อเสียชีวิตแล้ว จะหลบไปนั่งเงียบๆ คนเดียว แต่ดิฉันกับสามีพยายามปลอบและบอกว่าจะเลี้ยงดูทอฟฟี่เอง จะไม่ทอดทิ้ง ซึ่งอยากจะให้หลานได้เรียนสูงๆ เพราะหลานไม่เหลือใครแล้ว ปู่กับย่าก็เป็นไม้ใกล้ฝั่ง อยากให้เรียนสูงๆ จะได้เอาตัวรอด"นางเงินกล่าว
นางเงินกล่าวอีกว่า อยากให้รัฐบาลดูแลครอบครัวผู้เสียชีวิตให้ดีขึ้นกว่านี้ แต่ไม่ขอพูดถึงว่าให้ช่วยเหลือเป็นเงินเท่าไหร่ ถือว่าแล้วแต่แนวทางของรัฐบาล เพราะค้าขายไม่ดี ค่าใช้จ่ายมาก ตอนนี้ก็กลัวว่า พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เคยบอกว่าจะช่วยดูแลผู้เสียชีวิต จะลืมเหมือนกัน ส่วนที่แกนนำพูดว่าจะให้เงินรายละ 10 ล้านบาท ก็ไม่อยากได้หรอก แต่อยากได้ คนที่ทำผิดมาลงโทษเอามาขึ้นศาล อยากได้ความยุติธรรมมากกว่า อยากให้คนสั่งฆ่ามาชดใช้ที่ทำกับลูกเรา เพราะชีวิตเรียกร้องกลับมาไม่ได้ เงิน 10 ล้านไม่มีค่าหรอก หากแลกชีวิตกับลูก เอาลูกดีกว่า เลี้ยงมา 32 ปี หมดมากกว่า 10 ล้านบาทเสียอีก อยากได้ลูกคืน อยากได้ความยุติธรรมมากกว่า
วันเดียวกัน ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้พูดคุยกับนายคณิต ณ นคร ประธานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ (คอป.) กรณีการช่วยเหลือและเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์กระชับพื้นที่การสลายการชุมนุมเมื่อเดือนเม.ย.-พ.ค.53 ขณะนี้ต้องรอคณะทำงานชุดของนายคณิต ทราบว่ากำลังทำแนวทางต่างๆ เพื่อเสนอมายังรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้มีหลายครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ยังไม่ได้รับการเยียวยาจะดูแลอย่างไร น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ตนพยายามเร่งอยู่ แต่คงต้องรอคณะทำงานของนายคณิตทำงานก่อน ซึ่งทราบว่าจะเร่งรัดแนวทางต่างๆ เพื่อเสนอมายังตนอีกครั้ง
ด้านนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือบ.ก. ลายจุด แกนนำกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง กล่าวว่า กิจกรรมทางการเมืองวันอาทิตย์ที่ 4 ก.ย. จะจัดทอล์กโชว์การเมือง ครั้งที่ 3 ครั้งนี้เป็นคิวของนายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท ส.ส.พรรคเพื่อไทย และแกนนำนปช. จะพูดเกี่ยวกับเรื่องแนวความคิดทางการเมือง การเป็นผู้นำต่างๆ ว่ามีแนวคิดอย่างไรเพื่อให้สมาชิกเสื้อแดงได้รับรู้รับทราบ จากนั้นวันอาทิตย์ที่ 11 ก.ย. เป็นคิวของนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำนปช. พูดในลักษณะเดียวกัน โดยกิจกรรมจะจัดภายในศูนย์ของตน บริเวณชั้น 5 ห้างอิมพีเรียล ลาดพร้าว ตั้งแต่เวลา 14.00 น.เป็นต้นไป
0 comments:
Post a Comment