"เหลิม"สาวไส้ย้ายยุคก่อน เลขาครม.-ปลัดมท.ด้วย "วิเชียร"ฝาก"เพรียวพันธ์" ช่วยดูแลเงินชั้นประทวน
 เยี่ยมตร. - พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.ตรวจเยี่ยมกำลังพลที่ สภ. ยี่งอ จ.นราธิวาส ก่อนจะให้สัมภาษณ์เรื่องการโยกย้ายว่าอยู่ตำแหน่งไหนก็ทำประโยชน์ให้ประเทศชาติได้ เมื่อวันที่ 4 ก.ย. |
เมื่อวันที่ 4 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัม ภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการพูดคุยกับนายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เพื่อหาตำแหน่งที่เหมาะสมให้ว่า มอบหมายให้ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ไปศึกษาต่อ
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีเสียงตำหนิรัฐบาลถึงเรื่องย้ายนายถวิล ทั้งที่ไม่มีความผิด น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า นายถวิลไม่ได้มีความผิด แต่เป็นเรื่องของการทำงาน ที่ต้องการผู้มาช่วยเหลืองานด้านความมั่นคง เมื่อถามย้ำว่าแต่ตำแหน่งเลขาธิการสมช. ไม่ใช่ตำแหน่งทางการเมือง จึงทำให้มีเสียงติติงมาก นายกฯ ไม่ตอบคำถาม เมื่อถามอีกว่านายกฯ พร้อมสู้คดีหรือไม่ หากมีการฟ้องศาลปกครอง น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีสีหน้าไม่ค่อยพอใจ โดยกล่าวแต่เพียงว่า "ขอบคุณนะคะ" ก่อนจะเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าไปทันที
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ปลุกระดมให้ข้าราชการออกมาต่อต้านการโยกย้ายว่า อยากให้ นายอภิสิทธิ์ ย้อนกลับไปดูการบริหารราชการแผ่นดินของตัวเองที่โยกย้ายผบ.ตร. ทำมากกว่ารัฐบาลนี้เสียอีก ที่ถือว่าอัปยศที่สุดคือ กรณี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ขณะนั้น ที่สำคัญคือการวิพากษ์วิจารณ์ว่าอาจไม่ชอบด้วยกฎหมาย กรณีปล่อย พล.ต.อ. ปทีป ตันประเสริฐ รักษาการผบ.ตร.จนเกษียณอายุราชการ
โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวต่อว่า ส่วนที่กล่าวหารัฐบาลนี้จะตั้ง พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ เป็นผบ.ตร. เพราะมีความใกล้ชิดสนิทสนมกับคนในรัฐบาลนั้น ในยุคที่ประ ชาธิปัตย์เป็นแกนนำรัฐบาลก็แต่งตั้งคนที่ใกล้ชิด เช่น พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู สามีนางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ อย่างไรก็ตาม การโยกย้ายตำแหน่ง ไม่ว่าจะตำแหน่งผบ.ตร. หรือตำแหน่งเลขาธิการ สมช. ถือเป็นการปรับเปลี่ยนตามวาระ เพื่อสนองการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล และไม่ได้ต้องการไปรังแกข้าราชการ
 ยิ้มร่า - นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.เพื่อไทย เดินทางมาร่วมหารือและทานอาหารค่ำกับ ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯที่บ้านริมคลอง ย่านบางบอน กทม. เมื่อวันที่ 4 ก.ย. |
ที่ จ.พิษณุโลก นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์กรณีนายถวิลจะต่อสู้ทางกฎหมายหากถูกย้ายไม่เป็นธรรมว่า การแต่งตั้งต้องเป็นไปตามระบบคุณธรรม ส่วนคนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือต้องการรักษาระบบความเป็นธรรม ควรใช้สิทธิ์ต่อสู้ตามกระบวนการกฎหมาย นายกฯ และครม.ต้องรับผิดชอบในเรื่องที่ได้ตัดสินใจไป เราจะตรวจสอบในทุกกรณี เพราะข้าราชการไม่ใช่คู่กรณีของนักการเมือง ข้าราชการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ถ้าหน่วยงานรัฐทำไม่ถูก ก็ดำเนินการตามกระบวนการกฎหมาย แต่ต้องยุติธรรมและโปร่งใส เหมือนที่วิพากษ์วิจารณ์กรณี ผบ.ตร.สรุปแล้วเป็นอย่างไรแน่ เพราะตั้งเรื่องบ่อนขึ้นมา แต่สุด ท้ายไม่ใช่ คนรับเคราะห์เป็นเลขาฯ สมช. โดยอ้างว่าเพราะไปเป็นเลขานุการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถาน การณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) และถ้านายถวิลไปเป็นปลัดกระทรวงไหน ก็ต้องไปตั้งประเด็นใหม่อีกว่า ทำไมปลัดกระทรวงนั้นถึงถูกย้าย ชัดเจนว่าไม่ทำตามเนื้อผ้า
"นี่คือภาพที่ให้เห็นว่า เป็นกระบวนการแก้ปัญหา เพื่อต้องการแต่งตั้งคนๆ หนึ่งขึ้นมาเป็น ผบ.ตร.เป็นการใช้ระบบราชการมารับใช้บุคคล แทนที่จะใช้ระบบราชการมารับใช้ประชาชน แนวคิดที่ถูกโยกย้ายเพราะเคยทำ งานในศอฉ.นั้น ไม่ถูกต้อง อยากเห็น พล.ต.อ. โกวิท วัฒนะ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ที่ดูแลสมช. ออกมายืนยันหลักการการทำงานตรงนี้ และเมื่อเรื่องเลยเถิดไปจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หัวหน้ารัฐบาลต้องเป็นคนตัดสินใจ จะไปมอบหมาย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯไม่ได้ เพราะ ร.ต.อ.เฉลิมไม่ได้ดูแลสมช." นายอภิสิทธิ์ กล่าว
วันเดียวกัน พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้ช่วยผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ไพฑูรย์ ชูชัยยะ ผบช.ศชต. เดินทางเข้าตรวจเยี่ยมกำลังพล สภ.ยี่งอ จ.นราธิวาส โดย พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวขอบคุณตำรวจทุกนายที่เสียสละปฏิบัติหน้าที่บำบัดทุกข์บำรุงสุขของประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างดี โดยเฉพาะตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. ทำให้เหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ลดน้อยลงเป็นลำดับ รวมทั้งผลการปฏิบัติในเชิงรุกของตำรวจ ที่บูรณาการร่วมกับทหารและฝ่ายปกครอง
จากนั้น พล.ต.อ.วิเชียร ให้สัมภาษณ์ถึงการโยกไปเป็นเลขาธิการสมช. ว่า ไม่ว่าจะดำรงตำแหน่งอะไร และอยู่ที่ไหนก็ตาม ก็สามารถที่จะทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติและประชาชนได้เช่นกัน เมื่อถูกถามว่าน้อยใจบ้างไหมที่ถูกย้าย ผบ.ตร.กล่าวว่า ไม่ เพราะตอนนี้ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"ผบ.ตร.เป็นตำแหน่งที่ขึ้นอยู่กับการเมืองเป็นสำคัญ อยู่ได้ 1 ปีไม่เกิน 2 ปี ก็ต้องไป ผมเองรับตำแหน่งเมื่อวันที่ 7 ก.ย. 2553 ทำงานด้วยความเสียสละ ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด แต่ไม่ใช่เพื่ออยู่นาน หรือกอดเก้าอี้ เพราะรู้ธรรมชาติอยู่แล้วว่าตำแหน่งนี้เปลี่ยนแปลงบ่อย ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด คาดว่าน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงภายในสัปดาห์หน้า" พล.ต.อ. วิเชียร กล่าว
ผบ.ตร.กล่าวต่อว่า สิ่งที่จะทำต่อไป สำหรับผบ.ตร.คนใหม่ คือเรื่องการบริหารจัดการที่เป็นระบบ เช่น เรื่องที่ตนเองทำใกล้จะเสร็จแล้ว คือเรื่องระบบของพนักงานสอบ สวน ค่าตอบแทนของพนักงานสอบสวน จะทำให้แล้วเสร็จภายใน 1-2 วันนี้ ก่อนจะเสนอเป็นระเบียบ หรือกฎกระทรวง จะเป็นระบบที่มั่นคงยั่งยืน ไม่ยึดติดกับตัวบุคคล นอกจากนี้ ก็มีเรื่องของระบบการจัดการเลือกตั้งที่ได้ทำไว้ เรื่องอัตราเงินค่าตอบแทนตำรวจชั้นประทวนที่เพิ่มขึ้นเป็น 33,000 บาท เรื่องระบบนับวันทวีคูณตำรวจภาคใต้ เป็นผลงานที่ชัดเจนที่ได้ทำมาให้เป็นระบบ เมื่อเป็นระบบแล้วใครจะไปจะมาก็ไม่มีปัญหาก็ฝากให้ผบ.ตร.คนใหม่ให้ทำอย่างเป็นระบบ
ด้านนายดิเรก ถึงฝั่ง ส.ว.นนทบุรี และรองประธานคณะกรรมาธิการการปกครอง วุฒิสภา กล่าวถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ เรียกร้องให้ข้าราชการประจำออกมาต่อสู้ เรื่องโยกย้ายข้าราชการของรัฐบาลว่า ไม่เห็นด้วยกับการที่นายอภิสิทธิ์เรียกร้องให้ออกมาต่อต้าน ไม่รู้ว่ากลัวอะไร เนื่องจากรัฐบาลยังไม่ได้ดำเนินการอะไรเลย เพราะการโยกย้ายใหญ่ยังไม่เกิด มีแต่เพียงการโยกย้าย พล.ต.อ.วิเชียร และให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รองผบ.ตร. รักษาการ ผบ.ตร.แทน เรื่องนี้จะเห็นได้ว่ารัฐบาลเองก็ให้เหตุผลที่ชัดเจนถึงการโยกย้าย และการโยกย้ายให้ พล.ต.อ.วิเชียร มาเป็นเลขาธิการ สมช.นั้น ก็เป็นตำแหน่งที่มีความสำคัญมากเช่นกัน
"ไม่เห็นด้วยที่ออกมาแสดงวิวาทะใส่ร้ายป้ายสีกันและกัน ซึ่งเป็นปัญหาที่จะทำให้การปรองดองไม่เกิดขึ้น ควรจะลดการใส่ร้ายป้ายสีและอคติต่อกัน หันหน้ามาพูดคุยกัน อยากฝากไปยังรัฐบาลให้ดำเนินการโยกย้ายข้าราชการด้วยความเป็นธรรม" นายดิเรก กล่าว
ส่วน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ดูรายการโทรทัศน์ช่องหนึ่ง สัมภาษณ์นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงการโยกย้าย พล.ต.อ.วิเชียร ไปเป็นเลขาธิการ สมช. และปลุกข้าราชการประจำให้ลุกขึ้นมาทวงสิทธิ์ ในเรื่องนี้ถ้าฟังผิดก็ขอโทษ แต่เท่าที่จำได้สมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ก็เคยโยกย้ายข้าราชการตำแหน่งใหญ่ๆ เช่นกัน คนแรกคือ นายพีรพล ไตรทศาวิทย์ จากปลัดกระทรวงมหาดไทย ไปเป็นที่ปรึกษานายกฯ ฝ่ายข้าราชการประจำ ก่อนแต่งตั้งนายวิชัย ศรีขวัญ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ขึ้นดำรงตำแหน่งแทน ต่อมาสั่งย้าย พล.ท.สุรพล เผื่อนอัยกา เลขาธิการสมช. ไปช่วยราชการที่ปรึกษานายกฯ ฝ่ายข้าราชการประจำ โดยขอยกเว้นมติครม. รับโอนผ่านอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน ก่อนเสนอ ครม. แต่งตั้งนายถวิล รองเลขาธิการ สมช. เป็นเลขาธิการ สมช.
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวต่อว่า จากนั้นย้ายนาย สุรชัย ภู่ประเสริฐ เลขาธิการครม. พร้อมทั้งแต่งตั้งนายอำพน กิตติอำพน คนสนิทนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ดำรงตำแหน่งแทน หรือการย้าย พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร ไปประจำที่ปรึกษานายกฯ ฝ่ายข้าราชการประจำ อีกทั้งยังย้ายปลัดกทม. นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ทั้งที่การโยกย้ายเป็นอำนาจของกระทรวงมหาดไทย แต่กลับใช้อำนาจนายกฯ มาโยกย้ายอีกด้วย หากนายอภิสิทธิ์มีข้อข้องใจ อยากให้ยื่นกระทู้เรื่องนี้ต่อสภา ตนจะชี้แจงข้อมูล ส่วนการโยกย้ายพล.ต.อ.วิเชียรนั้น ท่านสมัครใจเอง ไม่มีใครบังคับ
ผู้สื่อข่าวถามว่า การโยกย้ายครั้งนี้ รัฐบาลเชื่อใจในตัว พล.ต.อ.วิเชียร ที่จะเข้ามานั่งเป็นเลขาธิการสมช. หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า พล.ต.อ.วิเชียรเป็นคนที่มีฝีมือ สามารถทำงานร่วมกันได้อยู่แล้ว เมื่อถามถึงกรณีนายถวิล เตรียมฟ้องศาลปกครอง ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า หากนายถวิลกล้าให้สัมภาษณ์ ก็คงไม่กล้าฟ้องศาลปกครองหรอก ที่ออกมาพูดเป็นเพราะไม่พอใจเท่านั้น รัฐบาล การโยกย้ายข้าราชการถือเป็นประเพณีปฏิบัติ ในรัฐบาลที่แล้ว บ่อนก็มีเยอะ เราจะไว้ไจได้หรือ การที่โยกย้าย พล.ต.อ.วิเชียร มานั่งเลขาธิการ สมช. จึงเป็นเรื่องธรรมดา ที่จะโยกย้ายตามยุคสมัย ตามความเหมาะสม
0 comments:
Post a Comment