Links

...

โต้เดือด"วงศ์ศักดิ์" ถวิลย้อน ปัดไม่เกี่ยว-ยื่นกพค., Asia News, Thai , news,


เดินหน้าร้องจันทร์นี้ "ปู"ปลอบขวัญขรก.สมช. เหลิมจัดทีมปราบยาบ้า อ๊อฟ-ภาณุพงศ์-ปานศิริ  เตรียมบินจับเข่าพม่า




"ถวิล"ไม่ฟัง"วงศ์ศักดิ์"เดิน หน้ายื่นร้องก.พ.ค. ระบุเรื่องของถวิลก็ของถวิล เรื่องของวงศ์ศักดิ์ก็ของวงศ์ศักดิ์ไม่เกี่ยวกัน ประ ธานก.พ.ค.เผยต้องขอดูคำร้องเรียนก่อน ขั้นตอนสอบสวนใช้เวลา 90 วัน อดีตบิ๊กขรก.ชี้กรณีถวิลเทียบเคียงวงศ์ศักดิ์ไม่ได้ เพราะเลขาฯสมช.ถูกย้ายไประนาบเดิม ส่วนวงศ์ศักดิ์ถูกเด้งลดชั้น เพราะไม่สนองนักการเมือง ทำให้ก.พ.ค.อาจไม่รับเรื่อง ขรก. สมช.ออกแถลงการณ์เรียกร้องนายกฯ ให้ความเป็นธรรมควบคู่สร้างขวัญกำลังใจ "ปู"สัญญาดูแลเต็มที่ ยืนยันไม่ได้กลั่นแกล้ง แต่ต้องปรับเปลี่ยนตามแนวทางการทำงาน "ยงยุทธ"ย้ำยังไม่มีสมาธิเรื่องโยกย้ายเพราะกำลังเร่งช่วยเหลือชาวบ้าน แย้มถ้าย้ายไม่ทันก.ย.ก็เลื่อนออกไปก่อน โฆษกมท.โต้ข่าวปล่อยอ้างคนเสื้อแดงกดดันเด้งปลัดมท.กับขวาง"พระนาย" รองเหลิมมอบนโยบายให้ผกก. ทั่วประเทศ โชว์วิสัยทัศน์ปราบยาบ้า เตรียมรุกประเทศเพื่อนบ้านเพื่อสกัดต้นทาง


"เหลิม"โชว์วิสัยทัศน์ปราบยาบ้า


เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 9 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการมอบนโยบายแก่ตำรวจเรื่องปราบปรามยาเสพติดว่า ตนต้องการเน้นให้เข้าใจว่าปัญหายาเสพติดตอนนี้ร้ายแรง ดังนั้นตำรวจต้องร่วมด้วยช่วยกัน เพื่อให้ปัญหายาเสพติดเบาบางลง สังคมจะได้ดีขึ้น การปราบปรามอาชญากรรมของตำรวจจะได้เบาบางลง ที่สำคัญนอกจากปราบปรามยาเสพติดแล้วต้องดูเรื่องการปราบอาชญากรรม ดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่า ดูแลเรื่องแรงงานเถื่อน และที่สำคัญตำรวจต้องรวมกันเป็นหนึ่งเพื่อสกัดกั้นเว็บ ไซต์หมิ่นสถาบัน


ผู้สื่อข่าวถามว่าปัญหายาเสพติดทำไมจึงขยายใหญ่โตมากขึ้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า พูดไปก็เหมือนโทษรัฐบาลก่อนที่ไม่ได้ทำอะไร การวางแนวทาง 5 รั้วป้องกันนั้นไม่ใช่ นั่นเป็นเพียงนามธรรม แต่การปฏิบัติต้องปราบปราม วันอาทิตย์ที่ 11 ก.ย. นี้ที่ทำเนียบรัฐบาล หลังจากนายกรัฐมนตรีกล่าวเปิดงานที่ตึกสันติไมตรีแล้ว ตนจะแสดงวิสัยทัศน์การปราบปรามยาเสพติด พูดคุยกับหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องเวิร์กช็อปปราบปรามยาเสพติด ว่าที่ทำมานั้นถูกครึ่งเดียว แต่การแก้ปัญหาที่แท้จริงต้องปิดรอยตะเข็บชายแดนให้ได้ สกัดสารตั้งต้น รณรงค์ป้องกัน ป้องปราม บำบัดรักษา ปราบปราม บูรณาการหน่วยงาน 6 กระทรวง 20 กรม และที่สำคัญต้องมีเจ้าหน้าที่ปราบปรามยาเสพติดของไทยไปยังประเทศเป้าหมายที่เราคิดว่าแหล่งยาเสพติดมาจากที่นั่น ซึ่งเท่าที่ตรวจสอบขณะนี้มีเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ไปอยู่เพียงคนเดียว แล้วจะทำงานกันได้อย่างไร ตนจะเชิญดีอีเอของสหรัฐอเมริกามาหารือเร็วๆ นี้ นอกจากนี้จะเดินทางไปประเทศเพื่อนบ้านเพื่อหารือเรื่องความร่วมมือด้วย


เมื่อถามว่าปัญหาอยู่ที่ว่าข้างบ้านเรายังมีการสู้รบกันอยู่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า กลุ่มว้า เขายากจน ตนเคยคุยกับหลานชายเว่ยเซียะกัง เขาบอกว่าเมื่อปี 2521-22 ที่อาของเขามาติดคุกกว่าจะกลับได้ต้องเสียเงินไปมาก แต่ตอนนี้เว่ยเซียะกังมีเงินมากเกือบเท่างบประมาณประเทศไทย 1 ปี มีธุรกิจจำนวนมาก อาณาจักรใหญ่โต ตนทราบโครง สร้างดี ตนเคยเข้าไปค่ายว้าเมื่อปี 2547 นั่งรถยนต์จากท่าขี้เหล็กใช้เวลาประมาณ 3 ช.ม. และตนจะพูดในการเวิร์กช็อปวันอาทิตย์นี้ เมื่อถามว่าแล้วจะหาโอกาสไปพูดคุยกับชนกลุ่มน้อยตามตะเข็บชายแดนหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า คงเข้าไปไม่ได้ ต้องไปคุยกับรัฐบาลของเขา


รู้จักใช้บิ๊กอ๊อฟ-ภาณุพงศ์-ปานศิริ


ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวอีกว่า ตั้งใจว่าจะให้ราย งานสรุปสถานการณ์ปราบปรามยาเสพติดทุก 3 เดือน เชื่อมีความคืบหน้าเพราะได้พล.ต.อ. เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รองผบ.ตร. เก่งเรื่องปราบปรามยาเสพติดโดยเฉพาะ และยังมีพล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รองผบ.ตร. มือปราบคนดัง ก็เหมือนเป็นมือขวาในการปราบปรามอาชญากรรม และได้พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผบ.ตร. ที่เชี่ยวชาญสายสอบสวน ตนรู้จักใช้ตำรวจเป็น พวกเขามีความชำนาญ ดังนั้นต้องดำเนินการปราบปรามไปพร้อมกับยึดทรัพย์ หากมีเจ้าหน้าที่รัฐ หรือตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องต้องลงโทษให้หนัก หากไม่ดำเนินการ อย่างเต็มระบบแล้วจะแก้ปัญหาได้ไม่เต็มที่


ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวต่อว่า นายกฯ นอกจากกำชับมากเรื่องปราบปรามยาเสพติดแล้ว เมื่อวานนี้ยังแนะนำว่าให้ตั้งโฆษกขึ้นมาเพื่อแถลงผลการทำงานว่า 3 เดือนทำอะไร เมื่อถามว่าวางตัวโฆษกไว้เป็นใคร รองนายกฯ กล่าวว่า ตั้งใจไว้ว่าจะหาดาราสวยๆ สักคน เป็นผู้หญิงจะได้ซอฟต์ลงบ้าง จะเป็นใครต้องขอติดต่อทาบทามก่อน ตั้งใจไว้ว่าจะให้มาทำงานเพื่อสังคม ดังนั้นอาจจะไม่เอาเงินเดือน


วางยุทธศาสตร์ทั่วประเทศ


ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า จากแนวทางการสืบสวนสอบสวนยาเสพติดเข้ามาใน 8 จังหวัดภาคเหนือ 87% ส่วนด้านชายแดนลาว มี อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี เพียงอำเภอเดียวที่ติดลำน้ำโขง ตนสั่งตำรวจปิดชายแดนดังกล่าวแล้ว และในการมอบนโยบายให้ผกก.โรงพักวันนี้จะชี้จุดให้กับทุกคน และให้เบอร์โทรศัพท์ไว้ติดต่อตนได้ตลอดเวลา ถือว่าเป็นเพื่อนร่วมงาน และที่บ้านเปิดแฟ็กซ์รับข้อมูลตลอด 24 ช.ม.


ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวอีกว่า ในการตั้งด่านใหญ่ 46 ด่าน และมีด่านเล็กอีกต่างหาก ติดกล้องวงจรปิด 100 กว่ากล้อง ซึ่งตนบูรณาการนำ ตชด.ทั้งหมด และเรียกบก.ตชด.ภาค 1 ที่จ. ปทุมธานี ไปบูรณาการกำลังร่วมงานกับ 8 จังหวัดภาคเหนือ ส่วนบก.ตชด.ภาค 3 ที่จ. เชียงใหม่ ลงพื้นที่เต็มอัตรา ถ้ายังไม่เพียงพอจะแบ่งจาก บก.ตชด.ภาค 2 จ.ขอนแก่น มาอีก แต่บก.ตชด.ภาค 4 ติดภารกิจในพื้นที่อยู่แล้ว โดยภาคใต้ให้ตชด.ชุมพรช่วยตำรวจภูธรดักเส้นทาง อาทิ ทางไปทุ่งสง ถนนหลัก ถนนรอง จาก จ.สุราษฎร์ธานีไปทุ่งสง และแม้ว่าจะหนักใจ แต่ตนก็มั่นใจ เพราะถือเป็นงาน


จับตาร้านขายยาแฝงสารตั้งต้น


ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวต่อว่า เมื่อปิดชายแดนได้แล้วจากนั้นต้องสกัดสารตั้งต้นที่มาจากที่อื่น แต่อย่างไรก็ตามต้องประสานกระทรวงสาธารณสุข เรื่องการจำหน่ายยาแก้หวัด เพราะจากข้อมูลพบว่าร้ายขายยาบางร้านสั่งซื้อคราวละ 2-3 แสนเม็ด ซึ่งเป็นเรื่องผิดปกติ เนื่องจากการซื้อนั้นสามารถนำไปเป็นหัวเชื้อผลิตยาเสพติดได้


ผู้สื่อข่าวถามว่าถึงสิ้นปีนี้ตั้งเป้าปราบปรามไว้กี่เปอร์เซ็นต์ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า พูดไปจะหาว่าโม้ แต่ดูดีกว่ารัฐบาลที่แล้วก็แล้วกัน เพราะรัฐบาลที่แล้วไม่ทำอะไร แผนอย่าไปเขียนมาก ตนได้บอกป.ป.ส.ไปแล้วว่าไม่ต้องอธิบายมาก เพราะตนกับพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ทำงานด้านนี้มาตั้งแต่เด็ก อย่าเขียนนโยบายแต่ในห้องแอร์เท่านั้น ตอนนี้ต้องแอ๊กชั่นแพลนกันได้แล้ว อย่างที่ตนด่ามาตลอดว่านักรบห้องแอร์ไม่ชนะหรอก


ระดมตร.ด๊อกเตอร์บูรณาการ


ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวอีกว่า ประชาชนทั่วไปอาจต้องได้รับผลกระทบบ้างแต่ต้องกระทบน้อยที่สุด และวันจันทร์ที่ 12 ก.ย. นี้ตนในฐานะด๊อก เตอร์นอกกรม จะเชิญด๊อกเตอร์ทั้งหมดของตำรวจมาประชุมกัน เพื่อปรับปรุงงานทุกด้านให้คล่องขึ้น ไม่ว่าจะเป็นงานสืบสวน สอบสวน ปราบปราม การบริการประชาชน ทำไมงานเหล่านี้ถึงได้ถูกตำหนิ ขอให้ให้เวลาตนได้ทำงาน พวกที่กระแหนะกระแหนคือพวกที่ทำใจไม่ได้


ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวถึงกรณีนายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาธิการสมช. ยืนยันร้องต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม หรือ ก.พ.ค. โดยจะมีชื่อร.ต.อ.เฉลิมร่วมในหนังสือร้องเรียนด้วยว่า ไม่ขอตอบเรื่องนี้


ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวถึงกรณีการปราบปรามบ่อนการพนันว่า ตอนนี้ถูกปิดหมดแล้วทั้งบ่อน ตู้ม้า สถานบริการก็ถูกจัดระเบียบ แต่เมื่อเขาเสียประโยชน์ก็ต้องมาหาทางเหน็บแนม ด่าว่า แต่ตนทนได้ เหลิมทนได้ ไม่มีปัญหา


ขอให้เชื่อทำดีกว่ารัฐบาลเก่า


ผู้สื่อข่าวถามว่า หากพบนักการเมืองท้องถิ่นมีส่วนเกี่ยวข้อง ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่ใช่นักการเมืองท้องถิ่น แต่เป็นนักการเมืองระดับชาติ ตั้งตู้ม้า เปิดบ่อน ค้าของหนีภาษี รับเงินจากกาสิโน แต่เรื่องเหล่านี้มันปิดไม่มิด และที่สำคัญขอให้จำไว้ว่า ถ้าเราไม่เอาเงินเขา ก็แถวตรงทั้งหมด ไม่มีตัวย่อนั้นนี้ให้เห็น และตัวย่อ ฉ ก็ไม่มีแน่นอน ตนสาบานได้ ทุกคนรู้ประวัติตนดี ถ้าเอาเงินลูกน้องแล้วจะปกครองกันได้อย่างไร เมื่อถามว่าหากมีใครมาวิ่งเต้นกับ ร.ต.อ.เฉลิม รองนายกฯ กล่าวว่า ตนไม่มีตำแหน่งให้ ตนเป็นแค่สารวัตรเท่านั้น ย้ายใครก็ย้ายไป อย่ามาย้ายสารวัตรเฉลิมก็แล้วกัน เก็บไว้สักคน


ต่อข้อถามว่าจเรตำรวจรายงานผลการสอบสวนลงโทษตำรวจที่เกี่ยวข้องกับบ่อนการพนันมาหรือยัง รองนายกฯ กล่าวว่า เท่าที่ทราบคือยังไม่เสร็จเรื่องสอบสวน ลงโทษทางวินัยนั้นตนไม่เกี่ยวข้อง ตนมอบนโยบายว่ามีไม่ได้ เพราะ 1 ปี 7 เดือนที่ผ่านมา เปิดเล่นกันอย่างกับมาเก๊า อย่างนั้นไม่ได้


"ผมบอกไปแล้วว่าถ้าที่ไหนยังไม่ปิด เดี๋ยวเหลิมไปเอง และเอานักข่าวไปด้วย และขอให้เชื่อผมสถานการณ์ทุกอย่างต้องดีขึ้นกว่ารัฐบาลที่แล้ว ยืนยันได้" รองนายกฯ กล่าว


"ถวิล"พบโกวิทขอลาพักร้อน


ก่อนหน้านั้นเวลา 08.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาธิการสมช. เข้าพบพล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกฯ ที่ห้องทำงานตึกบัญชาการ หลังจากครม.มีมติย้ายไปเป็นที่ปรึกษานายกฯ ฝ่ายข้าราชการประจำ ใช้เวลาหารือนาน 20 นาที


นายถวิล กล่าวภายหลังว่า มารายงานตัวต่อ พล.ต.อ.โกวิท ซึ่งเป็นผู้ดูแลงานในตำแหน่งที่ปรึกษานายกฯ ด้านความมั่นคง จึงถือโอกาสมากราบขอบคุณที่ดูแล และขอลาพักร้อน 1 สัปดาห์ ทั้งที่ตลอดเวลาทำงานมากว่า 20 ปี ตนไม่เคยลาพักร้อน อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.โกวิทยังไม่ได้มอบหมายงานใดชัดเจน แต่ตนต้องมาช่วยงานด้านความมั่นคง แล้วแต่รองนายกฯ จะมอบหมาย


ใส่ชื่อ"ปู-เหลิม"ร้องก.พ.ค.


นายถวิล กล่าวอีกว่า ตนจะยื่นร้องต่อก.พ.ค.ให้เร็วที่สุด ตอนนี้อยู่ระหว่างเขียนคำร้อง รวบรวมพยานหลักฐานเอกสารต่างๆ คิดว่าน่าจะเป็นวันจันทร์ที่ 12 ก.ย. จะยื่นได้ โดยเขียนคำร้องก่อน  ส่วนเอกสารหลักฐานจะตามไปและไปชี้แจงภายหลัง


ผู้สื่อข่าวถามว่าการร้องต่อก.พ.ค.ใครคือคู่กรณี นายถวิล กล่าวว่า ทราบจาก ก.พ.ค.ว่าต้องเป็นนายกฯ ในฐานะผู้บังคับบัญชา และนายกฯ เป็นประธานสมช.ด้วย ไม่ใช่รองนายกฯ ที่ต้องไปให้ข้อมูลต่อก.พ.ค. ส่วนผลจะเป็นอย่างไร เป็นเรื่องของก.พ.ค. แต่ในสำนวนจะกล่าวอ้างถึงร.ต.อ.เฉลิม รองนายกฯ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะพูดถึงตนเยอะมาก เพราะเมื่อครม.มีมติย้ายตนแล้วเรื่องน่าจะจบ แต่วันที่ 8 ก.ย. ยังพูดถึงตนในข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง และพาดพิงถึงถึงบุคคลที่สามด้วย


นายถวิล กล่าวอีกว่า รองนายกฯ พูดทำนอง ว่าตนมาไม่ถูกต้อง ฉะนั้นก็ต้องไป ทำนองว่ามาทางไหนไปทางนั้น ย้อนเรื่องที่ตนพูดถึงกฎแห่งกรรม ซึ่งถ้ากฎแห่งกรรมในเรื่องนี้ ตนต้องไม่อยู่กรณีนี้ เพราะตนรับราชการในสมช. 30 ปี ขึ้นมาตามลำดับขั้น ไม่ได้สร้างปัญหาให้กับคนอื่นหรือเบียดบังใคร และที่อ้างถึงเลขาฯ รอง เลขาฯ คนก่อนๆ ที่มารับตำแหน่งในสมช. นั้น ตนไม่อยากให้กระทบถึงคนอื่น บุคคลเหล่านั้นมาจากฝ่ายทหารบ้าง แต่ไม่ใช่ตนที่อยู่ในสมช. มา 30 ปี ดังนั้นกฎแห่งกรรมนี้ตนรับไม่ได้


กินข้าวกับเมียสบายใจกว่า


ผู้สื่อข่าวถามว่าเลขาฯ สมช.คนใหม่จะถูกคนในสมช.ต่อต้านหรือไม่ นายถวิล กล่าวว่า คิดว่าเจ้าหน้าที่สมช.ทุกคนเป็นมืออาชีพ มี สปิริต เขาอาจไม่พอใจ ไม่ชอบใจ แต่ต้องทำงานอย่างเต็มที่ เต็มกำลังความสามารถเพื่อประ โยชน์ของชาติบ้านเมือง และตนหวังว่าจะมีขวัญกำลังใจที่ดีในการเติบโตตามสายงานได้ โดยไม่ถูกแทรกด้วยคนอื่นๆ ตนย้ำว่างานด้านความมั่นคงตอนนี้ไม่ใช่ว่าที่ไหนมาก็ทำได้ เพราะงานเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก ต้องการแนวคิด การสั่งสมประสบการณ์ ความรู้ความสามารถ จึงหวังว่าคนที่เติบโตมาตามสายงานมีความสำคัญกับขวัญกำลังใจของเจ้าหน้าที่


ส่วนที่ร.ต.อ.เฉลิมอยากนัดกินข้าวด้วยนั้น นายถวิล กล่าวว่า ตนคงไม่กล้าไปและคงไม่ได้รับเกียรติขนาดนั้น และขณะนี้กินข้าวที่บ้านกับภรรยาก็สบายใจแล้ว เมื่อถามว่าร.ต.อ.เฉลิมระบุว่า การพาดพิงถึงเป็นการพูดเชิงปราศรัย หากมีอะไรทำให้เสื่อมเสียจะพิจารณาในแง่กฎหมายหรือไม่ นายถวิล กล่าวว่า คงไม่ฟ้องร้องถึงขนาดนั้น ไม่มีอะไรเสื่อมเสีย เพียงแต่มีข้อมูลที่ผิด จึงเกรงว่าต่อไปหากท่านมีวาสนาเป็นนายกฯ แล้วได้ข้อมูลผิดอย่างนี้แล้วจะไขว้เขวไป จึงขอเรียนว่าข้อมูลที่ท่านได้มานั้นผิด ไม่ถูกต้อง ไม่ครบถ้วน


ไม่มีความเห็นคำชี้แนะ"วงศ์ศักดิ์"


ต่อมานายถวิลให้สัมภาษณ์"ข่าวสด"ถึงกรณีนายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ อธิบดีกรมการปกครอง ระบุว่าการที่นายถวิลถูกย้ายออกจากเลขาฯสมช.ไม่สามารถเทียบเคียงกับกรณีที่นายวงศ์ศักดิ์ถูกย้ายจากอธิบดีกรมการปกครองได้ เพราะนายวงศ์ศักดิ์ถูกย้ายเนื่องจากไม่สนองคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ส่วนนายถวิลนั้นผู้บังคับบัญชามีอำนาจสั่งย้ายได้ตามความเหมาะสม พร้อมกับแนะนำว่าก.พ.ค.อาจไม่รับเรื่องร้องเรียนว่า ตนเห็นข่าวที่นายวงศ์ศักดิ์ออกมาแสดงความเห็นแล้ว แต่ตนคงไม่มีความเห็นต่อเรื่องดังกล่าว เพราะการจะรับเรื่องหรือไม่ เป็นอำนาจของก.พ.ค. และไม่มีอะไรที่จะทำให้ตนไม่ยื่นฟ้องต่อก.พ.ค.เพื่อรักษาสิทธิ์


"เรื่องของนายวงศ์ศักดิ์ก็เป็นเรื่องของนายวงศ์ศักดิ์ เรื่องของผมก็เรื่องของผม คุณวงศ์ศักดิ์เป็นอธิบดีกรมการปกครอง ผมเป็นเลขาธิการสมช. มันเป็นคนละตำแหน่งกันอยู่แล้ว คนละเรื่อง คนละกระทรวงกัน เทียบเคียงกันไม่ได้ จริงๆ ตอนนี้ผมไม่อยากแสดงความเห็นอะไรอีก ขอให้เป็นหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรมที่จะดำเนินต่อไปดีกว่า" นายถวิล กล่าว


ขรก.สมช.ออกแถลงการณ์


วันเดียวกันข้าราชการและเจ้าหน้าที่สมช. ออกแถลงการณ์แสดงความเห็นต่อกรณีการย้ายนายถวิล เปลี่ยนสี เลขาธิการสมช. ไปเป็นที่ปรึกษานายกฯ ฝ่ายข้าราชการประจำ สาระสำคัญระบุว่า สภาความมั่นคงแห่งชาติเป็นกลไกตัดสินใจทางนโยบาย เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาที่กระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของชาติ โดยมีสมช.ทำหน้าที่สนับสนุนการดำเนินงาน ซึ่งข้าราชการสมช. ได้สืบทอดพระราชประสงค์ของรัชกาลที่ 6 ผู้ก่อตั้ง ด้วยการทำงานเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศจากรุ่นสู่รุ่น ข้าราชการสมช.ได้รับการฝึกฝนให้ทำงานด้านความคิดเชิงยุทธศาสตร์ เป็นมืออาชีพ ได้รับความเชื่อถือจากภาคส่วนต่างๆ และสามารถประสานเชื่อมระหว่างข้าราชการฝ่ายต่างๆ ให้งานความมั่นคงเป็นไปอย่างต่อเนื่องได้


แถลงการณ์ระบุอีกว่า การย้ายเลขาฯ สมช. ซึ่งเป็นข้าราชการสมช.มาตั้งแต่ต้น ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สมช. แม้ที่ผ่านมาเคยย้ายอดีตเลขาฯ และรองเลขาฯ ไปประจำที่อื่น แต่บุคคลเหล่านั้นเป็นบุคคลภายนอกที่เข้ามารับตำแหน่งนี้ด้วยเหตุผลทางการเมือง กรณีที่เกิดขึ้นจึงมีผลกระทบต่อความรู้สึกและขวัญกำลังใจข้าราชการทุกคน พวกเราเคารพการตัดสินใจของนายกฯ และคาดหวังว่านายกฯ จะรับฟังความเห็นโดยบริสุทธิ์ใจของข้าราชการ จึงหวังว่ารัฐบาลจะให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างขวัญกำลังใจ และสนับสนุนการทำงานของข้าราชการสมช.ด้วย ที่สำคัญคือการให้หลักประกันว่าจะไม่แต่งตั้งบุคคลภายนอกเข้ามาทำงานในสมช.อีก


"ปู"เคารพและห่วงใยทุกคน


น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ให้สัมภาษณ์กรณีข้าราชการสมช.ออกแถลงการณ์ว่า เห็นหนังสือดังกล่าวแล้ว ตนเคารพการตัดสินใจและความห่วงใยของทุกคน ขอเรียนว่าการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการครั้งนี้ไม่ได้กลั่นแกล้ง งานด้านความมั่นคงที่มีพล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกฯ ดูแล ยังมีเนื้องานอีกมาก และนายถวิล เปลี่ยนศรี เป็นคนมีความสามารถที่รัฐบาลอยากให้มาให้คำแนะนำงานด้านความมั่นคง นอกจากนั้นนายถวิลจะเข้ามาดูแลอำนวยการงานด้านการบูรณาการและติดตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ซึ่งสวัสดิการต่างๆ ที่นายถวิลได้รับยังคงเดิมทั้งหมด


ผู้สื่อข่าวถามว่า ข้าราชการสมช.ต้องการลูกหม้อของสมช.เป็นเลขาฯ สมช. นายกฯ กล่าวว่า เราจะพิจารณาให้ดี เลือกบุคคลเหมาะสมให้ตรง กับงาน วันนี้ถือเป็นการปรับเปลี่ยนงานตามปกติ เมื่อถามว่าจะเป็นปัญหาหรือไม่หากนำคนนอกมาทำหน้าที่เลขาฯ สมช. น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ตรงนี้ยังไม่ได้สรุปว่าจะเป็นใคร แต่เชื่อว่าทุกคนมีความสามารถซึ่งต้องมาพิจารณาอีกครั้ง


มั่นใจทำความเข้าใจขรก.ได้


ต่อข้อถามว่ามั่นใจว่าจะทำความเข้าใจกับข้าราชการได้หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า มั่นใจ ตนมีหน้าที่ให้ความเป็นธรรม และพิจารณางานทุกอย่างตามเนื้องาน ไม่มีเจตนากลั่นแกล้ง อีกทั้งช่วงนี้เป็นการปรับโยกย้ายตามฤดกาลปกติ ขอร้องว่าอย่ามองว่าการพิจารณาปรับย้ายทุกตำแหน่งเป็นการกลั่นแกล้งกัน เพราะบางครั้งจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนเนื้องานเพื่อความเหมาะสม ส่วนการปรับโยกย้ายในกระทรวงอื่นๆ ก็เป็นหน้าที่ของแต่ละกระทรวงที่จะนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณา วันนี้บางกระทรวงยังไม่ปิดรายละเอียด ต้องขอดูก่อน


ขณะที่นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการแต่งตั้งโยกย้ายของกระทรวงมหาดไทย ว่า ความเป็นธรรมแต่ละยุคแต่ละสมัยไม่เหมือนกัน แต่ยืนยันว่าการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายยึดความรู้ ความสามารถ ตั้งคนเหมาะกับงาน ความเหมาะสมปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล


ขยายโยกย้ายไปหลัง30ก.ย.ได้


"ทั้งนายกฯ และผมยังไม่มีสมาธิ มีสติที่จะคิดเรื่องนี้ ในแต่ละวันเราคิดแต่เรื่องแก้ไขปัญหาน้ำท่วม และจะเริ่มคิดเรื่องนี้สถานการณ์น้ำท่วมเบา บางลง หากไม่ทันวันที่ 30 ก.ย. ก็ไม่เป็นไร เนื่องจากทางก.พ.ทำหนังสือแจ้งมาแล้วว่าสามารถขยายเวลาออกไปได้ เนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วม" รองนายกฯ และรมว. มหาดไทย กล่าว


โต้ข่าวปล่อยเสื้อแดงกดดัน


นายพิพัฒน์ชัย ไพบูลย์ โฆษกกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวกล่าวอ้างว่าคนเสื้อแดงกดดันให้โยกย้ายนายวิเชียร ชวลิต ออกจากปลัดกระทรวงมหาดไทย ว่าไม่เป็นความจริง การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการเป็นอำนาจผู้บังคับบัญชา ไม่มีใครกดดันได้ เชื่อว่ากลุ่มคนเสื้อแดงรู้บทบาทหน้าที่ มีมารยาท และรู้วัฒนธรรม ส่วนอนาคตจะโยกย้ายนายวิเชียรหรือไม่ ยังตอบไม่ได้ แต่จากการทำงานร่วมกันนายวิเชียรเป็นผู้ใหญ่ที่มีความสามารถ แม้จะมาจากการแต่งตั้งของรัฐบาลที่ผ่านมา ก็ไม่ได้หมาย ความว่าต้องเป็นคนของรัฐบาลชุดนั้นเสมอไป


นายพิพัฒน์ชัยกล่าวด้วยว่า เช่นเดียวกับที่มีข่าวกล่าวอ้างอีกว่าคนเสื้อแดงต่อต้านนายพระนาย สุวรรณรัฐ รองปลัดกระทรวงมหาด ไทย ขึ้นเป็นปลัดกระทรวง เพราะเป็นน้องชายนายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรีนั้น ที่ผ่านมาก็ไม่เคยได้ยินว่าพี่น้องคนเสื้อแดงไม่พอใจนายพระนาย ดังนั้นอย่าพึ่งเชื่อข่าวลือข่าวปล่อย โดยเฉพาะข่าวที่มีเจตนาทำลายความเชื่อถือกลุ่มหนึ่งกลุ่มใด ทั้งๆ ที่ไม่เป็นความจริง


ก.พ.ค.รอ"ถวิล"ร้อง-สอบใน90วัน


วันเดียวกันนายศราวุธ เมนะเศวต ประธานคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม(ก.พ.ค.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการเทียบเคียงข้อร้องเรียนความไม่เป็นธรรมในการโยกย้ายจากตำแหน่งเดิมของนายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาฯสมช.กับนายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ อธิบดีกรมการปกครองว่า ยังไม่เห็นรายระเอียดว่านายถวิลถูกย้ายโดยอาศัยกฎหมายฉบับใด เนื่องจากนายถวิลยังไม่ได้ร้องเรียนกับก.พ.ค. จึงไม่สามารถเทียบเคียงกันได้ หากนายถวิลคิดว่าการโยกย้ายไม่เป็นธรรมก็ร้องมาที่ก.พ.ค.ได้ภายใน 30 วัน หลังจากวันที่ถูกย้าย เมื่อก.พ.ค.รับเรื่องแล้ว จะมีเวลาสอบสวนภายใน 90 วัน แต่เบื้องต้นต้องรอให้นายถวิลมาร้องก่อน


ผู้ตรวจการฯชี้ต้องยุติธรรม


ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายปรา โมทย์ โชติมงคล ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวถึงการโยกย้ายนายถวิลว่า การโยกย้ายทุกตำแหน่งเป็นสิทธิที่ทำได้ แต่ต้องมีเหตุผลอธิบายได้ คือต้องมีความยุติธรรมทั้งสองฝ่าย ทั้งผู้มีอำนาจโยกย้ายและผู้ถูกโยกย้าย เชื่อว่ารัฐบาลได้คิดเรื่องนี้รอบคอบแล้ว แต่หากนายถวิลเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม สามารถร้องขอความเป็นธรรมตามช่องทางกระบวนการยุติธรรม รวมถึงศาลปกครองได้


"ผมขอชื่นชมน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ที่ระบุว่าคิดแก้ไข ไม่แก้แค้น ผมจะติดตามถ้อยคำดังกล่าวว่าจะทำได้อย่างที่พูดหรือไม่" ประธานผู้ตรวจการแผ่นดินกล่าว


"จาดุร"ร่วมชี้แนะแนวทาง


ส่วนนายจาดุร อภิชาตบุตร รองปลัดสำนักนายกฯ ในฐานะนายกสมาคมข้าราชการพลเรือนแห่งประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ว่า ส่วนตัวมองว่านายถวิลสามารถร้องต่อก.พ.ค.ได้ หากเห็นว่าคำสั่งโยกย้ายไม่ชอบธรรม โดยนายถวิลจะต้องตรวจสอบ รวมทั้งรวบรวมข้อมูลทั้งหมดที่รู้สึกคับข้องใจกับการถูกโยกย้ายให้ครบถ้วน โดยก.พ.ค.มีทางออกอยู่ 3-4 ทาง เช่น ยกคำร้อง หรือให้คำร้องนั้นมีผล หรือยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายของนายถวิล เป็นต้น ส่วนผลจะออกมาอย่างไรคงไม่สามารถก้าวล่วงได้ แต่เรื่องดังกล่าวต้องใช้เวลา


นายจาดุร กล่าวอีกว่า การอ้างว่าโยกย้ายเพื่อความเหมาะสม ต้องมีคำอธิบายที่ชัดเจนว่าความเหมาะสมนั้นคืออะไร แต่หากโยกย้ายโดยอำนาจของนายกฯโดยตรง ตามมาตรา 11 ก็ทำได้ กฎหมายให้อำนาจนายกฯโดยตรง 


นายจาดุร กล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีของตนที่ถูกโยกย้ายก่อนหน้านี้ รวมทั้งกรณีนายวงศ์ศักดิ์และนายถวิลนั้น ถือเป็นคนละเรื่องกัน เพราะกรณีของตนขณะนั้นยังไม่มีก.พ.ค.เกิดขึ้น จึงต้องไปร้องต่อศาลปกครอง ส่วนนายถวิลไม่สามารถร้องต่อศาลปกครองได้ทันที เพราะศาลจะไม่รับเรื่องเนื่องจากนายถวิลจะต้องร้องตามกระบวนการบริหารโดยผ่านก.พ.ค.ก่อน จากนั้นจึงจะร้องต่อศาลปกครองได้


ย้ายระนาบเดิม-ไม่ได้กลั่นแกล้ง


นายคณวัฒน์ วศินสังวร ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กรณีนายถวิลนั้นต่างจากนายวงศ์ศักดิ์ เพราะกรณีนายถวิลเป็นการโยกย้ายในระนาบเดียวกัน ไม่ใช่ย้ายให้เล็กลง หรือเป็นการกลั่นแกล้ง และไม่มีข้อกล่าวหาแต่อย่างใด แต่เป็นการย้ายเพื่อบริหารคนให้เหมาะสมกับสถานการณ์และบริบททางการเมือง ซึ่งเป็นเรื่องปกติ นายถวิลมีสิทธิ์ร้องเรียนได้ว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่เป็นเรื่องปกติที่ทุกรัฐบาลต้องบริหารจัดการคนให้เหมาะสม เป็นยุทธศาสตร์การวางคน ที่ผ่านมารัฐบาลนายอภิสิทธิ์ก็เป็นเช่นเดียวกัน


นายคณวัฒน์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามขึ้นกับดุลพินิจของก.พ.ค.หากนายถวิลยื่นร้องเข้าไป แต่กรณีของนายถวิลไม่เข้าข่ายกลั่นแกล้ง หรือมีเหตุผลที่จะรับคำร้องให้คืนตำแหน่ง เพราะผู้บังคับบัญชาใช้อำนาจเรื่องการบริหารคนให้เหมาะสมกับงานบริหารราชการแผ่นดิน ไม่ใช่การลงโทษแต่อย่างใด


เทียบย้ายถวิลกับเด้งวงศ์ศักดิ์


ขณะที่นายดิเรก ถึงฝั่ง ส.ว.นนทบุรี อดีตผู้ว่าฯหลายจังหวัด กล่าวว่า เรื่องนี้การย้ายนายถวิลกับการย้ายนายวงศ์ศักดิ์ไม่สามารถเทียบเคียงกันได้ ปัญหาของนายวงศ์ศักดิ์คือการไม่ทำตามคำสั่งของนักการเมือง จึงถูกกลั่นแกล้งให้โยกย้ายและลดตำแหน่งไปเป็นแค่ผู้ตรวจฯ ซึ่งไม่เคยมีปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นในวงการกระทรวงมหาด ไทย จึงเป็นเรื่องถูกต้องที่นายวงศ์ศักดิ์ร้องต่อก.พ.ค.เพื่อขอคืนความยุติธรรม แต่เรื่องของนายถวิล เมื่อเปลี่ยนรัฐบาลก็มีการสั่งโยกย้ายข้าราชการตามแผนบริหารราชการแผ่นดิน ไม่ได้กลั่นแกล้งใครเลย เป็นไปตามกระบวนการทางการเมืองโดยปกติทั้งสิ้น กรณีนายถวิลจะร้องต่อก.พ.ค.หรือศาลปกครองเพื่อให้รับเรื่องไว้พิจารณา จึงต้องคิดก่อนว่าการโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรมเกิดจากสาเหตุอะไร เป็นการกลั่นแกล้งหรือไม่ เป็นสิ่งที่ต้องทบทวน


ครม.เงาฟิตสอบไปถล่มไป


ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทร โกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการโยกย้ายข้าราชการที่ไม่เป็นธรรมว่า จากนี้ไปคงไม่เป็นที่ถกถียงแล้วว่าโยกย้ายเป็นเพราะสาเหตุอะไร แต่พยายามพูดเบี่ยงประเด็นว่าในอดีตสมัยประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลก็เคยทำเหมือนกัน ซึ่งยอมรับว่ามีการโยกย้าย แต่ไม่ได้โยกย้ายเข้ามาแบบไร้คำชี้แจงต่อสังคม ดังนั้นสังคมอย่าหลงประเด็น เพราะเรื่องนี้เริ่มต้นจากการเปิดโปงบ่อนกลางกรุง มาบอกต้องหาผู้รับผิดชอบ และโยกย้ายพล.ต.ตอ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ที่อ้างเรื่องบ่อน สุดท้ายก็ไม่ได้รับโทษอะไร ผลกลับไปตกอยู่ที่นายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาฯสมช. เพียงเพื่อให้พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รองผบ.ตร. ได้ย้ายเข้ามา ดังนั้นเลขาฯสมช.คนใหม่ต้องไปดูบ่อนกลางกรุง ถ้าไม่ทำอาจถูกย้ายได้ ดังนั้นอย่ามาโทษประชาธิปัตย์ซึ่งเป็นเรื่องไม่จริง เพราะถ้าตอนนี้พล.ต.อ. เพรียวพันธ์เกษียณอายุราชการไปแล้วปัญหานี้จะไม่เกิดขึ้น


นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองนายกฯเงา ให้สัมภาษณ์กรณีย้ายนายถวิลว่า มองในแง่ดี นายถวิลอาจไม่ได้ถูกกลั่นแกล้ง แต่รัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องระมัด ระวัง อธิบายและชี้แจงสาธารณชนให้ได้ แต่ถ้ากรณีนี้อธิบายไม่ได้ และอ้างการจับบ่อนการพนันแล้วเปลี่ยนตัวพล.ต.อ.วิเชียร ผบ.ตร.กระทบต่อนายถวิล ซึ่งนายถวิลไม่ได้เกี่ยวข้อง ตนและพรรคจะสนับสนุนนายถวิลไม่ให้ถูกกลั่นแกล้งถึงที่สุด ส่วนการเปลี่ยนตัวผบ.ตร.ถามว่าปัญหาบ่อนหมดไปได้หรือไม่


"เหลิม"มอบนโยบายผกก.ทั่วปท.


เมื่อเวลา 13.00 น.ที่ห้องประชุมบุณยะจินดา สโมสรตำรวจ ถ.วิภาวดี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ เป็นประธานมอบนโยบายการปฏิบัติราชการแก่นายตำรวจระดับผกก.ทั่วประเทศ โดยมีพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รรท.ผบ.ตร พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รองผบ.ตร. และนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ให้การต้อนรับ ร่วมกับนายตำรวจจำนวน 1,422 นาย


ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวตอนหนึ่งว่า นายตำรวจระ ดับผู้กำกับถือเป็นนายตำรวจที่มีบทบาทและเป็นหัวใจสำคัญของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นกลไกสำคัญที่จะสร้างความผาสุกให้กับประชา ชน การมาครั้งนี้ไม่ได้เรียกว่ามารับนโยบายแต่เรียกว่ามาพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน


"ผมได้เสนอแนะแนวทางปฏิบัติงานไว้ 5 ข้อ คือ 1.ขอให้เร่งปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติด 2.ขอให้เร่งปราบปรามและแก้ไขปัญหาอาชญากรรม 3.ขอให้ดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน 4.ขอให้ดูแลการรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ 5.ให้ใช้โรงพักเป็นตัวขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลควบคู่กับการดูแลความสงบสุขของพี่น้องประชา ชน รวมทั้งงานที่เป็นหัวใจของตำรวจคือการสืบสวนสอบสวน และปราบปราม ให้ใช้โรงพักเป็นจุดเดียวในการแก้ปัญหา" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว


ร่วมร้องเพลงมาร์ชตร.กระหึ่ม


รองนายกฯ กล่าวอีกว่า การแต่งตั้งโยกย้ายต่อไปนี้จะไม่มีการซื้อขายตำแหน่งเด็ดขาด นอกจากนี้รรท.ผบ.ตร.ได้ยืนยันว่าการแต่งตั้งโยกย้ายจะปรึกษาหารือกับตำรวจระดับผู้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด ส่วนตนถ้ามีโอกาสจะให้ข้อเสนอแนะในบางส่วน โดยฝ่ายการเมืองโดยเฉพาะตนยืนยันว่าใครอยู่ตำแหน่งใดต้องใช้ได้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นคนของใคร เพราะตำรวจทุกนายเป็นคนของประชาชน และต้องทำงานเพื่อประชาชน พรรคเพื่อไทยไม่เคยคิดใช้ข้าราชการเป็นเครื่องมือทางการเมือง เนื่องจากมีตัวอย่างชัดเจนในการเลือกตั้งที่ผ่านมา พรรคการเมืองบางพรรคพยายามใช้กลไกทางฝ่ายบริหาร แต่สุดท้ายเเล้วก็พ่ายแพ้ต่อศรัทธาประชาชน พ่ายแพ้ต่อผลงานที่พ.ต.ท.ทักษิณทำไว้ และเชื่อมั่นต่อนโยบายทักษิณคิด เพื่อไทยทำ


รองนายกฯ ตอบคำถามเรื่องตำรวจที่เกี่ยว ข้องกับยาเสพติดว่า ปัญหายาเสพติดนั้น รรท. ผบ.ตร เป็นผู้รับผิดชอบ ตำรวจทุกนายจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดไม่ได้ โดยจะมีมาตรการดำเนินการอย่างเด็ดขาด ตอนนี้ยังไม่บอกว่าจะใช้มาตรการใด แต่ถ้ามีเหตุการณ์เกิดขึ้นจะทำให้ดู


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมอบนโยบายเสร็จสิ้น รองนายกฯร่วมร้องเพลงมาร์ชพิทักษ์สันติราษฎร์ กับนายตำรวจทุกนายด้วย


"บิ๊กอ๊อฟ"ประชุมกับ"บิ๊กชา"


สำหรับความเคลื่อนไหวของพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รรท.ผบ.ตร. เมื่อเวลา 09.00 น. สั่งการพล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง จเรตำรวจแห่งชาติ ทำรายงานชี้แจงกรณีบ่อนรัชดาฯ รวมถึงส่งรายชื่อตำรวจที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 43 นาย ที่มีพฤติการณ์บกพร่องต่อหน้าที่ ปล่อยปละละเลยให้มีบ่อนบริเวณดังกล่าว


ต่อมาเวลา 11.00 น.พล.ต.อ.เพรียวพันธ์เดินทางมาที่กระทรวงยุติธรรม เข้าประชุมร่วมกับพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม นายชาติชาย สุทธิกลม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ พล.ต.ท. ตรีทศ รณฤทธิวิชัย ผบช.ส. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือเรื่องขอใช้พื้นที่บก.ส.  3 ที่ตั้งโรงเรียนตำรวจนครบาลเดิม สร้างสถานที่สำหรับใช้ควบคุมนักโทษการเมือง


จากนั้นพล.ต.อ.เพรียวพันธ์เดินทางไปที่สโมสรตำรวจ ถ.วิภาวดี เพื่อต้อนรับและรับนโยบายจากร.ต.อ.เฉลิมการปราบปรามยาเสพติด กระทั่งเวลา 15.00 น.ภายหลังเสร็จสิ้นการมอบนโยบาย  ร.ต.อ.เฉลิมและพล.ต.อ.เพรียวพันธ์เดินไปพบปะพูดคุยกับผกก.ทั่วประเทศด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม


สั่งกำชับห้ามมีบ่อนเด็ดขาด


พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องบ่อนการพนันว่า ได้สั่งกำชับบช.น.แล้วว่าห้ามมีเด็ดขาด


ผู้สื่อข่าวถามถึงมาตรการดำเนินการนายตำรวจที่ถูกโยกย้ายก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานเข้ามา ตนขอดูเรื่องนี้จากจเรตำรวจแห่งชาติก่อน จากเรื่องเดิมซึ่งยังไม่มีการจับกุมแต่อย่างใด


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดพล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.น.มีคำสั่งให้ย้าย 3 ผกก.โรงพักนครบาล ประกอบไปด้วย พ.ต.อ.วีระ จิรวีระ ผกก.สน.เตาปูน เข้าช่วยราชการที่ บก.น.2 พ.ต.อ.สมาน รอดกำเนิด ผกก.สน.พญาไท เข้าช่วยราชการที่ บก.น.1 และ พ.ต.อ.อดิศักดิ์ คุณพันธ์ ผกก.สน.บางยี่ขัน เข้าช่วยราชการที่ บก.น.7 โดยทั้งหมดได้มีการให้ รองผบก.ในแต่ละ บก.ไปรักษาราชการแทน เป็นระยะเวลา 30 วัน พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง เนื่องจากพบว่ามีการปล่อยปละละเลยให้มีการเปิดบ่อนการพนันในท้องที่นั้น


ต่อมาเวลา 16.00 น.พล.ต.อ.เพรียวพันธ์เดินทางมาที่สน.ร่มเกล้า เรียกประชุมเรื่องการปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ จากนั้นให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า การแก้ไขการแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่นี้มีมาตรการเหมาะสมแล้ว จากการพูดคุยกับตำรวจที่ดูแลพื้นที่สรุปได้ว่า พื้นที่นี้มีการแพร่ระบาดของยาเสพติดข้ามมาจากที่อื่น ซึ่ง ผบก.น.3 และสน.ร่มเกล้าใช้มาตรการพูดคุยเปลี่ยนความคิดของประชาชนเพื่อมาป้องกัน ขจัดผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดไม่ให้มีอยู่ในพื้นที่

0 comments:

Post a Comment

Blog Archive

Twitter Delicious Facebook Digg Stumbleupon Favorites More

 
Design by Free WordPress Themes | Bloggerized by Lasantha - Premium Blogger Themes | Grants For Single Moms