Links

...

ฟ้ากับเหว เด้ง‘วงศ์ศักดิ์-ถวิล’อะไรยุติธรรม?...ไม่ยุติธรรม? ‘บางกอกทูเดย์’ มีคำตอบ!, Asia News, Thai , news,


หากใครลองศึกษาให้รู้ความจริงเรื่องนี้อย่างถ่องแท้จะเห็นว่า...ข้อถกเถียงดังกล่าวเป็นคนละประเด็น และเป็นคนละเรื่องเดียวกัน
“ถ้าเป็นผม...ผมลาออกแล้ว”
นี่คือคำตอบของ วงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ อธิบดีการปกครองคนปัจจุบัน ที่ตอบคำถามทีมข่าวเฉพาะกิจ “บางกอกทูเดย์” ขณะสัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องการถูกพาดพิงถึงการโยกย้ายตำแหน่งในกระทรวงมหาดไทย
โดยเฉพาะประเด็นดังกล่าวกำลังเป็นที่ “วิพากษ์วิจารณ์” ในสังคม... ภายหลังเรื่องนี้ถูกจับโยงมาถึงตัว ถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) โดยถูกคำสั่งของคณะรัฐมนตรีในรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้ไปดำรงตำแหน่งเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการประจำ
ซึ่งคนจำนวนไม่น้อยกำลังมองว่า...มันเป็นเรื่องไม่ยุติธรรม...หรือหากจะพูดให้ชัดเจนก็คือ เป็นเพราะถูกกลั่นแกล้งทางการเมือง
แต่ที่ผ่านมาไม่เคยมีใครมองเห็นปัญหานี้อย่างลึกซึ้ง...และไม่เคยมีใครเปรียบเทียบการถูก “โยกย้ายตำแหน่ง” ของบุคคลทั้งสองว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร
เพราะหากใครลองศึกษาให้รู้ความจริงเรื่องนี้อย่างถ่องแท้จะเห็นว่า...ข้อถกเถียงดังกล่าวเป็นคนละประเด็น และเป็นคนละเรื่องเดียวกัน
เริ่มต้นที่ วงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ อธิบดีการปกครองคนปัจจุบัน ที่มีการร้องทุกข์ต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) กรณีถูกย้ายจากอธิบดีกรมการปกครอง ไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง ภายใน 24 ชั่วโมง
โดยร้องว่า...เหตุที่ถูกโยกย้าย เนื่องจากปลัดกระทรวงมหาดไทย และที่ปรึกษารัฐมนตรีมหาดไทย ไม่พึงพอใจในประเด็นหลักๆ อยู่ 2 ประการ คือ
1. เพราะไม่ยอมเซ็นคอมพิวเตอร์ มูลค่า 3,490 ล้านบาท ที่ มงคล สุระสัจจะ อดีตอธิบดีกรมการปกครอง ในสมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ สั่งเดินหน้าสัญญาที่ให้ไว้กับบริษัท คอนโทรลดาต้า โดยทำให้สำเร็จลุล่วง
2. เรื่องการถูกคำสั่งให้ดึงงานการจัดซื้อบัตรสมาร์ทการ์ดกลับมายังกระทรวงมหาดไทย ทั้งที่มีเจ้าภาพหลักอย่างกระทรวงไอซีทีเป็นผู้ดำเนินการ
ทั้งสองเรื่องดูเหมือน วงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ จะถูกอำนาจทางการเมืองบีบคั้นให้ต้องทำ...แต่ตัวเขาเองปฏิเสธที่จะทำ...และพร้อมลุกขึ้นต่อสู้กับ “ความไม่ยุติธรรม” โดยเรียกร้องให้ คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม หรือ ก.พ.ค. พิจารณาถึงเรื่องการถูกโยกย้ายตำแหน่งที่เกิดขึ้น
ท้ายที่สุด ก.พ.ค. พิจารณาแล้วเห็นว่า...การย้าย นายวงศ์ศักดิ์ เป็นการใช้ดุลยพินิจไม่ชอบด้วยกฎหมาย...ก.พ.ค. จึงมีมติให้กระทรวงมหาดไทยคืนตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครองให้ วงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ กลับมาดำรงตำแหน่งเดิม...โดยมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
ช่วงเวลานั้นตัวเขามีความรู้สึกว่า...
“ประเทศไทยโชคดีที่ระบบคุณธรรม ความโปร่งใส ความเป็นธรรม ยังเป็นของคู่บ้านคู่เมืองเราอยู่ จากอดีตที่ผ่านมาบอกว่า ใครทำดีไม่ได้ดี ใครทำชั่วกลับได้ดี พูดกันหนาหูจนติดปากไปจนถึงเด็กอนุบาล
บัดนี้ เป็นการพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า...ความดีมันคู่กับบ้านเมืองของไทย พระสยามเทวาธิราชท่านก็ยังดูแลอยู่คู่เมืองไทยของเรา
ผมก็ยังดีใจว่า...ยังมีองค์กรที่ยังให้ความเป็นธรรมกับข้าราชการอยู่ ข้าราชการมีอยู่ 2 ล้านกว่าคน ถือว่าเป็นเครื่องมือที่จะขับเคลื่อนการบริการ และภารกิจของรัฐบาลไปสู่ประชาชน เป็นสิ่งที่ผมมองมากกว่าตำแหน่งหน้าที่
ไม่ว่าใครจะอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ใดก็แล้วแต่ หากคำนึงถึงความเจริญ ความมั่นคงของประเทศชาติ และการบริการที่ดี สามารถสร้างความอบอุ่นให้ประชาชนได้ นั่นจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด”
แต่ก็เกิดคำถามของผู้ที่ยื่นเรื่องให้มีการโยกย้ายตำแหน่งว่า...เมื่อ วงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ ไม่ผิด...แล้วใครคือคนผิด?
เมื่อมาเปรียบเทียบกับกรณีของ ถวิล เปลี่ยนศรี ที่เดินไปร้องต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) ว่าตนถูกโยกย้ายตำแหน่งด้วยความไม่เป็นธรรม...ทั้งๆ ที่การเปลี่ยนผ่านทางการเมืองเป็นเรื่องที่สามารถทำได้...และเป็นการทำตามระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน
เพราะนายกรัฐมนตรี (ปัจจุบัน คือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร) และในฐานะที่เป็นหัวหน้ารัฐบาลสามารถมีอำนาจในคำสั่งเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารราชการแผ่น ซึ่งเป็นคำสั่งทางการปกครอง
ดังนั้น การปรับเปลี่ยนตำแหน่งของ ถวิล เปลี่ยนศรี จึงเป็นเรื่องที่สามารถทำได้...หากการแต่งตั้งตำแหน่งข้าราชการได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี
เพราะสิ่งสำคัญที่สุดในการโยกย้ายตำแหน่งของบุคคลในรัฐบาลใดรัฐบาลหนึ่งย่อมต้องมองว่า...เป็นสิ่งที่จะก่อให้เกิดประโยชน์กับรัฐบาลสูงสุด
สามารถรับฟังคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาได้...และสามารถนำคำสั่งเหล่านั้นไปปฏิบัติเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชน
โดยเฉพาะตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ซึ่ง ถวิล เปลี่ยนศรี เคยเป็นอยู่...ที่ผ่านมามักถูกมองว่าเป็นตำแหน่งที่รับใช้ฝ่ายการเมืองมาโดยตลอด
เพราะอำนาจของ สมช. มีมากมายเหลือล้น ทั้งการดำเนินการในส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับภาควิชาการ ภาคเอกชน องค์กรพัฒนาเอกชน และองค์กรประชาชน
รวมไปถึงการเสนอแนะและจัดทำนโยบาย อำนวยการ พัฒนา ประสานการจัดการ และติดตามประเมินผลด้านการข่าวกรอง การต่อต้านการข่าวกรอง การรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ รวมทั้งเสนอแนะแนวทางในการพัฒนานโยบายอำนวยการข่าวกรอง การพัฒนาองค์กรข่าวกรองและการต่อต้านการข่าวกรอง
ซึ่งหากกลุ่มการเมืองต้องการใช้ สมช. เป็นเครื่องมือ...ก็เท่ากับคนเหล่านั้นมีอำนาจมหาศาลอยู่ในมือ...ซึ่งรัฐบาลใดบ้างที่คิดจะเอาคนที่ไม่ไว้เนื้อเชื่อใจให้เข้ามาทำงานในตำแหน่งนี้
คำตอบคือ ไม่มีรัฐบาลใดอยากเสี่ยง!!
ดังนั้น...รัฐบาลพรรคเพื่อไทยจึงจำเป็นต้องตั้งบุคคลที่ไว้ใจได้ และต้องเป็นคนที่เข้ามาทำงานเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง
และนี่หรือ...คือสิ่งที่ ถวิล เปลี่ยนศรี กล่าวอ้างว่าเป็นความลุแก่อำนาจของรัฐบาลใหม่...และกรณีการโยกย้ายของ ถวิล เปลี่ยนศรี ถือเป็นเรื่องเดียวกับ วงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ จริงๆ อย่างนั้นหรือ
ซึ่งข้อเท็จจริงที่เห็น คือ มันไม่ใช่!
แถมยังเป็นเรื่องที่แตกต่างกันราวฟ้ากับเหว...เพราะอย่างกรณีของ วงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ คือ ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมเพราะไม่สนองตอบความต้องการของฝ่ายการเมือง
แต่ ถวิล เปลี่ยนศรี ที่ออกมาเรียกร้องเพราะต้องการหาที่ยืน (สูดอากาศ) ให้กับตนเอง...เพราะผู้มีอุปการะคุณทั้งหลายไม่สามารถหยิบยื่นมอบโอกาสให้...เนื่องจากประชาชนไม่เลือก...ประชาชนไม่เอา
ถามว่า...ใครเป็นคนที่เรียกร้องความยุติธรรมตามหลักเกณฑ์ และใครเป็นคนที่เรียกร้องตามหลักกู
ที่ผ่านมา...การเมืองในกระทรวงมหาดไทย ถูกมองว่า “เข้าขั้นวิกฤต” และไม่ได้หมายถึงมหาดไทยเท่านั้น เพราะการเมืองในประเทศก็ถือว่าวิกฤตเช่นเดียวกัน
เพราะไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง หรือข้าราชการประจำ...ส่วนหนึ่งก็ยังมีคนที่เข้ามาทำงานด้วยความไม่บริสุทธิ์ใจ หรือไม่ ใสซื่อมือสะอาด ซึ่งทำให้เป็นอันตรายต่อประเทศชาติอย่างยิ่ง
โดยเฉพาะข้าราชการ...หากยังไม่มีจิตสำนึกที่ดี ยังคอยรับใช้นักการเมืองที่ชั่วร้าย บ้านเมืองก็เกิดหายนะ...และนั่นเองก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ประเทศชาติฉิบหายมาจนถึงทุกวันนี้
ดูเหมือนว่า...คำพูดของ วงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ ที่กล่าวว่า “ถ้าเป็นผม...ผมลาออกแล้ว” จะเป็นสิ่งที่เขาเข้าใจความเป็นไปทางการเมืองของไทยได้เป็นอย่างดี...และเป็นการแสดงสปิริตของคนที่มีจิตวิญญาณในการทำงานจริงๆ โดยไม่เดือดเนื้อร้อนใจ
เพราะความจริงการปรับเปลี่ยนหรือโยกย้ายตำแหน่ง...ถือเป็นเรื่องธรรมดา...และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นทุกยุคทุกสมัย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับ ถวิล เปลี่ยนศรี ที่คนในแวดวงการเมืองรู้จักเขาดีว่า...เป็นเด็กใคร...มาจากไหน??
ซึ่งพรรคเพื่อไทยคงไม่บ้า...ให้มานั่งสอดแนมเป็นสปาย....??
ตรงนี้คงต้องถามไปยัง ถวิล เปลี่ยนศรี ว่า...ท่านเดือดเนื้อร้อนใจเพราะอะไร?
หรือตำแหน่งหัวโขนที่สวมอยู่...มันมีสิ่งอะไรน่าเย้ายวนใจหรือน่าพิศวาสหลงใหลนักหรือ?

0 comments:

Post a Comment

Blog Archive

Twitter Delicious Facebook Digg Stumbleupon Favorites More

 
Design by Free WordPress Themes | Bloggerized by Lasantha - Premium Blogger Themes | Grants For Single Moms