Links

...

ฮุนเซนรับปากปู ฟื้นการค้า อภัยโทษ2คนไทย, Asia News, Thai , news,



หาช่องลดคุกจนปล่อย เหลิมแจงอีกรื้อคดีแม้ว แล้วแต่ศาลจะวินิจฉัย สั่งพักหน้าที่สส.บุญจง คอหวยลุ้น"เลข"นายกฯ



สัมพันธไมตรี - สมเด็จฮุนเซน นายกฯ กัมพูชา พร้อมด้วยนางบุน รานี ภริยา ให้การต้อนรับน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ และนายอนุสรณ์ อมรฉัตร สามี ระหว่างเยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการ วันที่ 15 ก.ย.
ปูเยือนกัมพูชาชื่นมื่น ฮุนเซนรับปากหาช่องลดโทษ "วีระ-ราตรี" เพื่ออภัยโทษให้เร็วที่สุด ด้านมาร์คโต้วุ่นเหตุช่วย "วีระ-ราตรี" ล้มเหลว เหลิมแจงสภารื้อคดีแม้วไม่เกี่ยวรัฐบาล อยู่ที่ศาลเป็นผู้วินิจฉัยและดำเนินการเอง โฆษกรัฐบาลอัดฝ่ายค้านจ้องดิสเครดิต อ้างรัฐบาลเอี่ยวแม้วทุกเรื่อง รัฐมนตรีสื่อยันยังไม่ปลด"คลายปม" ปธ.สภาแจ้งที่ประชุม"บุญจง"ต้องงดทำหน้าที่รอศาลฎีกาตัดสินใบแดง ส่วนกกต.ตั้งกรรมการสอบสมาชิกภาพจตุพรอีกรอบ หลังอภิชาตปัดชี้ขาด เหตุไม่ใช่อำนาจนายทะเบียนพรรค

ปชป.ตั้งกระทู้ค้านย้ายถวิล

เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 15 ก.ย. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภา เป็นประธาน พิจารณากระทู้ถามสดเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการอย่างไม่เป็นธรรมของนายอลงกรณ์ พลบุตร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ถามพล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกฯ ประธานแจ้งว่า พล.ต.อ.โกวิท ทำหนังสือด่วนแจ้งมาว่าติดภารกิจเข้าร่วมพระราชพิธีพระศพสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี จึงขอเลื่อนกระทู้นี้ออกไปเป็นสัปดาห์หน้า

นายอลงกรณ์กล่าวว่า กระทู้นี้มีเงื่อนไขเรื่องเวลา ดังนั้นหากรัฐมนตรีเข้าเวรเข้าเฝ้าฯ ขอให้สภาแจ้งฝ่ายค้านด้วย เพื่อให้การทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารเป็นประโยชน์กับประเทศมากที่สุด ขณะนี้มีกรณีนายถวิล เปลี่ยนศรี ที่ถูกย้ายจากเลขาธิการสมช. หากเลื่อนกระทู้นี้ออกไป เกรงว่าในการประชุมครม.วันอังคารที่ 20 ก.ย. อาจแต่งตั้งใครเข้าไปเป็นเลขาฯสมช.แล้ว จึงขอให้ชะลอการแต่งตั้งเลขาฯสมช.ออกไปก่อน เพราะทำลายขวัญข้าราชการอย่างมาก และในประวัติศาสตร์ไม่เคยมีข้าราชการที่เคลื่อนไหวตอบโต้ ประธานจึงสั่งให้เลขาธิการสภาประสานกับเลขาธิการ ครม.ต่อไป

สภาแจงสมาชิกภาพ"บุญจง"

เวลา 13.30 น. นายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภา คนที่ 1 เป็นประธานการประชุม แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า เมื่อวันที่ 14 ก.ย. องค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งได้มีคำสั่งประทับรับฟ้องในคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ศาลฎีกามีคำพิพากษาให้เพิกถอนสิทธิ์การเลือกตั้งนายบุญจง วงศ์ไตร รัตน์ ส.ส.นครราชสีมา พรรคภูมิใจไทย เป็นเวลา 5 ปี จากกรณีที่นายบุญจง มีความผิดเกี่ยวกับการทุจริตเลือกตั้งซ่อมส.ส.เขต 6 (เดิม) จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 2553 ที่ผ่านมา จึงเป็นเหตุให้นายบุญจง ต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาเป็นอย่างอื่นตามรัฐธรรมนูญมาตรา 239 ดังนั้น จึงทำให้ขณะนี้มีส.ส.อยู่ในสภา 499 คน

จากนั้นเป็นการพิจารณาญัตติด่วนขอให้สภาตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาโครงการก่อสร้างถนนไร้ฝุ่นในถิ่นทุรกันดารทั่วประเทศ ที่ค้างการพิจารณาจากการประชุมวันที่ 14 ก.ย. ส.ส.รัฐบาลเสนอญัตติด่วนในทำนองเดียวกัน 4 ญัตติ ปรากฏว่าที่ประชุมได้ลงมติไม่เห็นด้วยให้สภาตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ด้วยเสียง 347 ต่อ 10 พร้อมมีมติส่งเรื่องให้รัฐบาลรับไปดำเนินการแก้ไขต่อไป

เหลิมแจงสภารื้อคดีแม้วอยู่ที่ศาล

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ยังได้ชี้แจงต่อสภาถึงข้อหารือของนายวัชระ เพชรทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ที่กล่าวหาว่าการตั้งนายอุกฤษ มงคลนาวิน เป็นประธานคณะกรรมการอิสระว่าด้วยหลักนิติ ธรรมแห่งชาติ ของรัฐบาลไม่มีความน่าเชื่อถือว่า รัฐบาลเห็นว่าถึงเวลาที่ต้องปฏิรูปกฎหมายทั้งหมด ไม่ว่าผลการทำงานของคณะกรรมการชุดนี้จะออกมาอย่างไร รัฐสภา วุฒิสภา ประชาชนและสื่อจะได้รับทราบ

รองนายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลนี้ไม่ได้กินแกลบ มีสติปัญญา นายวัชระหรือฝ่ายค้านจะไม่เชื่อถือในตัวนายอุกฤษ ก็เป็นเรื่องของเขา แต่ตนหรือรัฐบาลเชื่อถือ รอให้เขาทำงานก่อน ดูว่ามีกฎหมายอะไรบ้างที่ควรปรับปรุงแก้ไข ส่วนการรื้อฟื้นคดีที่ดินรัชดาของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ต้องมีพยานหลักฐานใหม่ พวกตนจะไปรื้อฟื้นเองได้อย่างไร เป็นสิทธิ์ที่พ.ต.ท.ทักษิณจะร้องขอได้ อยู่ที่ศาลจะวินิจฉัย อย่าพูดว่ารัฐบาลทำลายหลักนิติรัฐ ไม่ใช่หน้าที่

ยันรัฐบาลไม่ละเมิดกฎหมาย

ร.ต.อ.เฉลิมให้สัมภาษณ์ถึงการบังคับใช้กฎหมายกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ว่า ตามหลักการเรื่องการส่งผู้ร้ายข้ามแดน ต้องเป็นไปตามสนธิสัญญา จะเห็นว่าตำรวจสากลหรืออินเตอร์โพลไม่ออกหมายจับ เพราะไม่เข้าหลักเกณฑ์การส่งผู้ร้ายข้ามแดนที่จะต้องมีความผิดเหมือนกัน ไม่ใช่เรื่องการเมือง และแต่ละ ประเทศต้องใช้ดุลพินิจพิจารณา กรณีพ.ต.ท. ทักษิณนั้น ที่ผ่านมารัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พยายามจะดำเนินการแต่ประเทศอื่นๆ เห็นว่าไม่เข้าเงื่อนไข ก็ไม่ออกหมายจับ ดังนั้น รัฐบาลนี้ต้องทำตามกฎหมาย เมื่อกฎหมายให้ทำไม่ได้ก็คือทำไม่ได้

"ที่ฝ่ายค้านออกมาโวยวายเรื่องพ.ต.ท. ทักษิณเดินทางมากัมพูชา แต่รัฐบาลไม่จัดการแล้วบอกว่าละเว้นปฏิบัติหน้าที่นั้น ถ้าพ.ต.ท. ทักษิณ มาจริงผมก็ทราบแล้ว และคำว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ต้องเป็นเจ้าพนักงานและมีหน้าที่ทำ ถ้าพ.ต.ท.ทักษิณมาประเทศไทยแล้วเราไม่ทำ อย่างนี้ถือว่าละเว้น แต่ถ้าไปทั่วโลกแล้วบอกว่าละเว้น จะไปละเว้นอย่างไรก็เราไม่มีหน้าที่" ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว

เมื่อถามว่ารัฐบาลสามารถประสานประเทศที่มีสนธิสัญญาเพื่อขอส่งตัวได้ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ไปทำซ้ำซากและทำมาตลอด ที่ดูไบก็ส่งรัฐมนตรีช่วยคนหนึ่งไปหาอุปทูต บรูไน อินโดนีเซีย และกัมพูชาก็ไป เพราะนายอภิสิทธิ์รู้ว่าพ.ต.ท.ทักษิณไปจึงทำหนังสือขอตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดน แต่สมเด็จฮุนเซน นายกฯกัมพูชา ด่ากลับมาว่า ไม่รู้จักว่าสนธิสัญญาเป็นอย่างไร มีเงื่อนไขอย่างไร เขาก็ไม่ให้ ดังนั้น ที่บอกว่าทำไม่ได้คือต้องทำตามกฎหมาย ไม่ใช่รัฐบาลนี้ไม่ทำ แต่กฎหมายไม่ให้ทำ ยืนยันว่ารัฐบาลนี้ทำตามกฎหมาย ไม่ทำอะไรละเมิดกฎหมาย

ชี้ทักษิณไปเขมรไม่เกี่ยวไทย

เมื่อถามว่าการที่พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางเข้ากัมพูชา เจ้าหน้าที่ไทยที่เกี่ยวข้องจะต้องดำเนินการอย่างไร ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ตนไม่ทราบว่าพ.ต.ท.ทักษิณไปจริงหรือไม่ แต่ถ้ามาจริง ตนบอกได้เลยในฐานะที่รับผิดชอบจะไม่ทำอะไร เพราะกฎหมายไม่ให้อำนาจไว้ แต่รายละเอียดไม่ขอพูดถึงเพราะต้องอธิบายยาว

เมื่อถามว่าถ้าผู้ต้องหาหนีคดีไม่ได้ชื่อพ.ต.ท. ทักษิณ รัฐบาลจะตัดสินใจไม่ดำเนินการอยู่หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ตัดสินใจเหมือนเดิม เพราะทำอะไรไม่ได้ กฎหมายไม่ให้ทำ เมื่อถามว่าทำไมกรณีนายปิ่น จักกะพาก ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงจึงติดตามตัวเอามาดำเนินคดีได้ ร.ต.อ. เฉลิม กล่าวว่า จะอธิบายเรื่องนี้ในสภาเอง แต่ตนไม่ได้อยู่ในสมัยนั้นจึงไม่ทราบรายละเอียด ตนพูดชัดเจนแล้วว่าทำไม่ได้ และทำไมถึงทำไม่ได้ต้องถามนายอภิสิทธิ์

เมื่อถามถึงกระแสข่าวรื้อฟื้นคดีที่ดินรัชดาฯ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า การรื้อฟื้นคดีเพราะเป็นเรื่องระหว่างพ.ต.ท.ทักษิณกับศาล ไม่ใช่เรื่องรัฐบาล ส่วนที่พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยออกมาพูดก็เป็นการแสดงความเห็น ตามกฎหมายรัฐบาลไปรื้อฟื้นไม่ได้ คนรื้อฟื้นได้คือคู่กรณี แต่สุดท้ายขึ้นอยู่กับศาลว่าจะรับพิจารณาหรือไม่ จะมาบอกว่าทำลายระบบนิติรัฐตรงไหน

แจงตั้งอุกฤษไม่เกี่ยวแก้รธน.

เมื่อถามถึงกรณีตั้งคณะกรรมการอิสระว่าด้วยหลักนิติธรรมแห่งชาติ (คอ.นธ.) ที่มีนายอุกฤษ มงคลนาวิน เป็นประธาน และถูกฝ่ายค้านท้วงติงว่าจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอำนาจศาล ร.ต.อ. เฉลิมกล่าวว่า ยังไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไร อย่าไปตกใจหรือกังวล ส่วนที่มองว่าจะเกิดความซ้ำซ้อนเนื่องจากนายอุกฤษ เป็นคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายด้วยนั้น ตนมองว่ามีสิทธิ์ที่จะตั้งให้มาทำหน้าที่ แต่ผลงานจะเป็นอย่างไรคงไม่วิจารณ์ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของรัฐบาลจะตั้งใครขึ้นมาทำงาน บางฉบับบอกว่าจะไปรื้ออำนาจศาล ต้องถามว่าจะไปรื้อได้อย่างไร ศาลทำงานโดยมีรัฐสภาออกกฎหมายให้ อย่าไปมองการณ์ไกลว่าเรื่องนี้จะทำให้ศาลทำงานยากขึ้น กรรมการชุดนายอุกฤษเข้ามาเพื่อสร้างความชอบธรรมทางกฎหมายทั้งระบบ

เมื่อถามว่าคณะกรรมการชุดนายอุกฤษจะเข้ามาเพื่อตั้งธงแก้รัฐธรรมนูญในปลายปีนี้หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า คนละเรื่อง การแก้รัฐ ธรรมนูญจะแก้เรื่องที่มาส.ส.ร. คือแก้มาตรา 291 ถ้าใครสงสัยให้ยื่นกระทู้สดถามมา

รัฐบาลอัดฝ่ายค้านจ้องดิสเครดิต

ที่ทำเนียบรัฐบาล นางฐิติมา ฉายแสง โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีพ.ต.ท.ทักษิณ ว่า รัฐบาลไม่ได้พูดคุยกันถึงเรื่องพ.ต.ท.ทักษิณ และไม่อยากให้มาเกี่ยวข้องด้วยซ้ำ นายกฯ ก็ไม่รู้กำหนดการเดินทางของพ.ต.ท.ทักษิณ ที่จะไปกัมพูชาล่วงหน้ามาก่อน และการไปคราวนี้ก็คงไม่ได้เจอกับพ.ต.ท. ทักษิณ ไม่ได้มีการไปกำหนดเดินทางให้ไปใกล้ๆ กัน

นางฐิติมา กล่าวว่า เรื่องของพ.ต.ท.ทักษิณรัฐบาลคงต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมตามปกติ ในสมัยรัฐบาลชุดที่แล้ว พ.ต.ท.ทักษิณก็ไปกัมพูชาและเป็นที่ปรึกษาสมเด็จฮุนเซน แต่ไม่เห็นจะไปทำอะไรได้ การที่นายกฯ จะเดินทางไปเยือนประเทศใดก็มักจะถูกเอาไปโยงเกี่ยวข้องกับพ.ต.ท.ทักษิณตลอด เช่น การไปเยือนบรูไนก็อ้างว่าเป็นเพราะเป็นประเทศที่ให้พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าประเทศ ทั้งที่ไม่เกี่ยวเลย สำนักข่าวต่างประเทศก็ยังไปลงข่าวแบบนั้น พรรคฝ่ายค้านพยายามโยงให้มันดูวุ่นวาย เพื่อดิสเครดิตรัฐบาล ฝ่ายค้านคือฝ่ายค้าน รัฐบาลคงไม่ไปสนใจแต่ขอไปทำงานดีกว่า ไปสร้างความสัมพันธ์ที่ดีแล้วจะเห็นผลจากการทำงานในเชิงรุก

วอนคนไทยช่วย"วีระ-ราตรี"

นางฐิติมา กล่าวว่า ส่วนที่ส.ส.เพื่อไทยจะไปเตะฟุตบอลกระชับมิตรกับกัมพูชาก็เป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี ไม่ใช่สิ่งผิดอะไร นายกฯ หรือผู้ใหญ่ในพรรคก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะตอนที่พรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้งชายแดนก็เฮ ชี้ให้เห็นอยู่แล้วว่าจะนำพาความสัมพันธ์ ความรู้สึกที่ดีต่อกันกลับมาอีกครั้ง ความสามารถในการแข่งขันที่ไทยเคยมีมันหาย ไประดับหนึ่ง จะต้องเร่งสร้างกลับมาสร้างชื่อเสียงในการเป็นผู้นำอาเซียน

"รัฐบาลชุดนี้ย้ำการทำงานเปิดเผย แต่คนที่เคยปกปิดถึงได้โดนเล่นงาน แต่เราไม่เล่นการเมืองสองหน้า ทำทุกอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งเรื่องพลังงานนั้นไม่ได้มีในวาระที่จะหารือกัน แต่หากกัมพูชาหยิบยกขึ้นมาเราก็พร้อมจะคุย" นางฐิติมากล่าว

เมื่อถามว่ามีส.ส.เสื้อแดงบางส่วนยกย่องสมเด็จฮุนเซน จนออกนอกหน้า นางฐิติมากล่าวว่า ถ้ามีการพูดเช่นนั้นในพรรคก็คงต้องระวังกันมากขึ้น ส.ส.ต้องไม่ไปทำให้ภาพรัฐบาลไทยดูไม่ดี การสร้างสัมพันธ์ทำได้หลายมิติ การให้เขามาชี้นำคงไม่ถูกต้อง

ผู้สื่อข่าวถามถึงข่าวกัมพูชาไม่กล้าปล่อยตัวนายวีระ สมความคิด และน.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ เพราะเกรงว่าจะกลายเป็นเรื่องสองมาตรฐาน นางฐิติมา กล่าวว่า เราก็อยากจะให้มีการปล่อยตัวเป็นอิสระ คงไปกลัวเรื่องสองมาตรฐานไม่ได้ เพราะทั้ง 2 คนทนทุกข์ทรมานมาตั้ง 9 เดือนแล้ว อยากจะช่วยประชาชนที่ตกทุกข์ได้ยากไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน เพราะถึงอย่างไรก็เป็นคนไทยด้วยกัน

กษิตชี้คดีแม้วไม่ใช่การเมือง

นายกษิต ภิรมย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของอัยการสูงสุดจะประสานกระทรวงการต่างประเทศที่จะประสานต่อไปยังรัฐบาลกัมพูชา เพื่อขอตัว พ.ต.ท.ทักษิณ มาดำเนินคดี หากกระทรวงการต่างประเทศจะไม่ดำเนินการก็คงไม่ได้เพราะเป็นหน้าที่ ส่วนที่รัฐบาลจะไม่ดำเนินการ เพราะไม่มีสนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกับกัมพูชานั้น ตนมองว่าไม่เกี่ยวกัน เราสามารถขอความร่วมมือแต่ละประเทศได้ เพราะคดีของพ.ต.ท.ทักษิณเป็นคดีอาญาไม่ใช่คดีการเมือง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของกัมพูชาด้วยเช่นกัน

เมื่อถามว่าไทยจะไปควบคุมตัวพ.ต.ท. ทักษิณที่กัมพูชาได้หรือไม่ นายกษิต กล่าวว่า ไม่ได้เนื่องจากเราจะไปละเมิดอำนาจอธิปไตยของกัมพูชา นอกจากเอกอัครราชทูตของไทยประจำกรุงพนมเปญ เห็นพ.ต.ท.ทักษิณอยู่ที่กัมพูชาจริง สามารถประสานอัยการสูงสุด และตำรวจดำเนินการกับพ.ต.ท.ทักษิณได้

เมื่อถามว่าเกรงว่ากัมพูชาจะไม่ให้ความร่วมมือกับรัฐบาลไทย นายกษิต กล่าวว่า เป็นเรื่องของสมเด็จฮุนเซน นายกฯ กัมพูชา แต่ถ้ากัมพูชาจะอ้างว่าไม่มีกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนนั้นไม่สำคัญ แต่อยู่ที่ความปรารถนาดีของกัมพูชาที่มีต่อไทยต่างหาก

มาร์คค้านตั้งคกก.ดูนิติธรรมชาติ

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการตั้ง คอ.นธ. ว่า ยังไม่เห็นความจำเป็นของการตั้งคณะกรรมการชุดนี้ และจะเป็นการซ้ำซ้อนกับคณะกรรมการชุดอื่น อย่างเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ รัฐบาลก็ยอมรับว่าจะตั้งส.ส.ร. ดังนั้นรัฐบาลต้องชี้แจงให้ชัดว่าตั้งขึ้นมาเพื่ออะไรเพราะอำนาจหน้าที่ที่เขียนไว้ก็ยังคลุมเครือ ส่วนที่นายตวง อันทะไชย ส.ว. สรรหา ระบุการตั้งคณะกรรมการชุดนี้เป็นการปฏิวัติเงียบนั้น คงต้องดูการทำงานก่อน ถ้าศึกษาเพื่อเสนอความคิดก็ยังไม่มีผล แต่หากรัฐบาลนำความคิดเอาไปใช้ ต้องผ่านขั้นตอนการใช้อำนาจในทางอื่น

นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงนายกฯ ไทยเดินทางไปเยือนกัมพูชา ว่า การเจรจาเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนทางทะเลคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ปัญหาอยู่ที่จะใช้กรอบเจรจาเดิมหรือกรอบใหม่ ซึ่งกระบวนการต้องผ่านขั้นตอนตามรัฐธรรมนูญ และทุกคนมีหน้าที่ตรวจสอบว่ารัฐบาลได้รักษาผลประโยชน์ของประเทศ รัฐบาลไทยต้องยืนยันว่าการขึ้นมรดกโลกแต่เพียงฝ่ายเดียว โดยพยายามใช้ความเป็นมรดกโลกเป็นเครื่องมืออนุมัติแผนบริหารจัดการพื้นที่ที่ถือว่าเป็นของเรา เราก็ไม่ยินยอม รวมถึงปัญหาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล ที่มีทั้งประเด็นแหล่งผลประโยชน์ การกำหนดเส้นเขตแดนทางทะเล จะต้องพูดให้ชัดว่าเรารักษาจุดยืนอย่างไร

"ผมคิดว่าถ้าวางทุกอย่างบนโต๊ะให้ชัดแล้ว ควรถามกัมพูชาว่าจะเอาอย่างไร ด้านหนึ่งบอกว่าอยากจะคุยกัน แต่อีกด้านก็รุกโดยใช้กลไกมรดกโลก ศาลโลกบ้าง ทำให้ไทยเราจำเป็นต้องรักษาผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก" นายอภิสิทธิ์กล่าว

แจงวุ่นล้มเหลวช่วย"วีระ-ราตรี"

นายอภิสิทธิ์กล่าวอีกว่า การไปเยือนกัมพูชาของนายกฯ หากสามารถช่วยเหลือนายวีระและน.ส.ราตรีได้ก็เป็นเรื่องที่ดี เมื่อถามต่อที่นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ แกนนำเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติระบุหากมีการปล่อยตัวคนทั้งสอง จะเป็นการตบหน้ารัฐบาลประชาธิปัตย์ เพราะสมัยที่เป็นรัฐบาลไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ในสมัยที่เป็นรัฐบาลได้ใช้ความพยายามแล้ว ครั้งสุดท้ายใช้แนวทางการขออภัยโทษ แต่สมเด็จฮุนเซน ยืนยันว่าฝ่ายบริหารไม่สามารถแทรกแซงได้ เพราะมีระเบียบและกฎหมายว่าต้องรับโทษ 2 ใน 3 ก่อนจึงจะได้รับการอภัยโทษ เราก็ท้วงติงว่า กรณีนายศิวลักษณ์ ชุติพงษ์ ที่เคยติดคุกเช่นกัน ทำไมทำได้ แต่สมเด็จฮุนเซนก็ยืนยันว่าไม่อยากทำผิดซ้ำสอง เราบังคับเขาไม่ได้ ดังนั้นเป็นเรื่องของกัมพูชาจะเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขระเบียบต่างๆ ที่ทำแล้วคนไทยได้ประโยชน์ ก็ไม่มีปัญหา

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า การที่กัมพูชาไม่พอใจรัฐบาลที่แล้ว ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่เป็นเรื่องที่เราไม่ยินยอมให้เขามาบริหารจัดการพื้นที่ที่เป็นเขตของเรา ที่เขาคิดว่ารัฐบาลก่อนหน้านี้ยอมเขาแล้ว เขาก็ไม่พอใจ รัฐบาลที่แล้วต้องยืนยันรักษาผลประโยชน์ส่วนรวมและเจรจา ซึ่งช่วยคนไทยได้ทั้ง 5 คน ทั้งหมดมีข้อหาเดียว ส่วนอีก 2 คน มีเพิ่มอีกข้อหา

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ส่วนเรื่องเส้นเขตแดนทางบก รัฐบาลจะต้องตกผลึกก่อนว่าจุดยืนเป็นอย่างไร และกระทรวงการต่างประเทศต้องเร่งหาข้อยุติกับหน่วยงานต่างๆ ความจริงภาระเร่งด่วน คือการต่อสู้ทางกฎหมายในศาลโลกในคดีหลัก เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องทำ

ครม.เงาห่วงตั้ง"ปอย พสิษฐ์"

เมื่อถามถึงกรณีปัญหาการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหาร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรื่องตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหม ต้องดูว่าปัญหาคืออะไร ทราบว่าให้คณะกรรมการกฤษฎีกาดูอยู่ แต่ที่ครม.เงา เป็นห่วงคือ มีการแต่งตั้งบุคคลโดยมีเรื่องการเมืองเป็นหลักและที่วิจารณ์มากคือกรณีนายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ อดีตเลขานุการประธานศาลรัฐธรรมนูญ ที่ไปเป็นที่ปรึกษารมว. สาธารณสุข หรือการโยกย้ายในกระทรวงยุติธรรม ดูว่าเป็น การตอบแทนคนที่มีผลงานทางการเมือง

เมื่อถามถึงตำแหน่งเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องสำคัญ ปัญหาภาคใต้เพิ่งเริ่มต้นใช้กฎหมายใหม่ ต้องดูว่าการบังคับใช้กฎหมายใหม่เป็นที่ยอมรับว่าดีขึ้นกว่าในอดีตที่ใช้โครงสร้างเดิม อยากเห็นความต่อเนื่อง ถ้ารัฐบาลบอกว่าจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงก็ต้องพิสูจน์ด้วยผลงานที่ชัดเจน และจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาให้ดีขึ้นได้อย่างไร รายชื่อต่างๆ ที่โยกย้ายไปนั้นยังไม่แน่ใจว่าจะไปนั่งควบหรือไปทำอะไร คนที่เป็นเลขาฯ ศอ.บต.จะมีอำนาจมาก ซึ่งตำแหน่งนี้จะใช้เพื่อเป้าหมายทางการเมืองไม่ได้ เพราะปัญหาภาคใต้เป็นปัญหาใหญ่ที่รอการแก้ไข แม้แนวโน้มบางเรื่องดีขึ้น แต่ก็เปราะบางพอสมควร จึงอยากเห็นการเดินหน้าที่สานต่อในแนวคิดการพัฒนาและความยุติธรรมเป็นตัวนำ อยากเห็นการยกเลิกการใช้กฎหมายพิเศษ และควรได้คนที่มีความเคร่งครัดยึดหลักคุณธรรม

รมต.แจงยังไม่ปลด"คลายปม"

ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ประชุมหารือในประเด็นรายการคลายปม ที่ออกอากาศทางช่อง 11 และเรื่องการคุกคามสิทธิเสรีภาพสื่อ โดยที่ประชุมเชิญ น.ส.กฤษณา สีหลักษณ์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และน.ส.รัตนา เจริญศักดิ์ ผอ.สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย เข้าชี้แจง

ทั้งนี้ น.ส.กฤษณากล่าวว่า อยากให้สื่อร่วมกันสร้างบรรยากาศที่ดี ไม่อยากให้กรมประชาสัมพันธ์เป็นกระบอกเสียงให้แก่รัฐบาลอย่างเดียว แต่อยากให้พัฒนารายการที่สร้างสรรค์ เป็นประโยชน์ต่อสังคม ตนดูแลสื่อ ให้อิสรภาพแก่ผู้ปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ เปิดพื้นที่ให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมทางการเมืองด้วย อย่างไรก็ตาม ราย การคลายปมยังไม่มีการเปลี่ยนกลางคัน แต่ถ้าจะเปลี่ยนก็ต้องยึดเหตุและผล

เด็จพี่ยื่นวุฒิฯสอบเทือกเจรจาลับ

เวลา 13.30 น. นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย พร้อมคณะส.ส.พรรคเพื่อไทยยื่นหนังสือต่อนายจิตติพจน์ วิริยะโรจน์ ส.ว.ศรีสะเกษ ในฐานะประธานคณะกรรมการติดตามกรรมการสถานการณ์บ้านเมือง วุฒิสภา ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี เดินทางไปเจรจาลับเกี่ยวกับผลประโยชน์ทางทะเลระหว่างไทยกับกัมพูชา กับสมเด็จฮุนเซน รวมถึงนายอภิสิทธิ์ ในฐานะอดีตนายกฯ ซึ่งเชื่อว่าอยู่ในฐานะผู้สั่งการ

นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยได้รับร้องเรียนจากประชาชนกว่า 2 พันคน ที่ไม่สบายใจกับข่าวที่ออกมาจึงยื่นเรื่องมาถึงพรรคให้ตรวจสอบ เพราะการออกมาเปิดเผยของนายกฯกัมพูชาว่ามีการพูดคุยเรื่องน้ำมัน โดยนายสุเทพได้เข้าไปพบถึง 3 ครั้ง กระทบภาพของนักการเมืองไทย แต่เนื่องจากขณะนี้ยังไม่มีกรรมาธิการสามัญ สภาผู้แทนราษฎร จึงต้องใช้ช่องทางกรรมการของวุฒิสภาเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงโดยเร็ว จากนั้นต้องเปิดเผยต่อสาธารณะรวมถึงส่งต่อให้องค์กรอิสระที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไปในกรณีที่พบการกระทำความผิด

นายจิตติพจน์กล่าวว่า จะเร่งตรวจสอบโดยเร็วแต่ขณะนี้ยังไม่สามารถให้รายละเอียดชัดเจนใดๆ ได้ ขอศึกษาข้อมูลเนื้อหาเสียก่อน และอาจจะต้องเชิญนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพเข้าชี้แจง

รมว.พลังงานยันรัฐบาลนี้โปร่งใส

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พลังงาน เผยว่า กระทรวงจัดทำข้อมูลสถานการณ์ปิโตรเลียมที่เกี่ยวข้องกับไทย-กัมพูชาให้กับนายกฯรับทราบ ลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เพื่อใช้เป็นข้อมูลเบื้องต้นเจรจาข้อตกลงเพื่อร่วมพัฒนาแหล่งสัมปทานปิโตรเลียมในโอกาสต่อไป ทั้งนี้ ตามขั้นตอนต้องให้กระทรวงต่างประเทศเจรจาเรื่องการแบ่งเขตพื้นที่ทับซ้อนให้ชัดเจน จากนั้นกระทรวงจะเข้าไปร่วมเจรจาพัฒนาพื้นที่แปลงสัมปทานปิโตรเลียม อาจเป็นลักษณะเดียวกับการพัฒนาพื้นที่ร่วมไทย-มาเลเซีย การเจรจาทั้งหมดอยู่บนผลประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก ดำเนินการแบบโปร่งใส

นายทรงภพ พลจันทร์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กล่าวว่า เตรียมพร้อมเรื่องข้อมูลหากการเจรจาพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชาเกิดขึ้น หลักการจะใช้โมเดลเดียวกับการจัดตั้งองค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย (เจดีเอ) ที่พัฒนาแหล่งก๊าซธรรมชาติ รัฐบาลทั้ง 2 ประเทศ แบ่งปันผลประโยชน์เท่าเทียมกัน ในอัตรา 50 ต่อ 50 ซึ่งไทยได้ผลตอบแทนคืนมาปีละ 1 หมื่นล้านบาท แต่กรณีของไทย-กัมพูชาจะเพิ่มความเข้มข้นในเรื่องการแบ่งผลประโยชน์ ไทยต้องได้ประโยชน์สูงสุด

ปึ้งชี้ช่วย"วีระ-ราตรี"ต้องรอลุ้น

นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงการช่วยเหลือนายวีระและน.ส.ราตรีว่า การปล่อยตัวขึ้นอยู่กับทางการกัมพูชาตัดสิน รวมถึงการเจรจาของนายกฯด้วย แต่ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชาที่ดีขึ้นหวังว่าจะช่วยได้ ส่วนความเป็นไปได้ที่จะปล่อยตัวทันทีหลังการเจรจานั้น ยังไม่รู้ว่าคำตอบเป็นอย่างไร เท่าที่ทราบการพบปะพูดคุยครั้งนี้ เป็นการไปเจรจาขอความช่วยเหลือ ดังนั้นต้องรอ

เมื่อถามว่ากระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาระบุนักโทษ 2 คนต้องรับโทษ 2 ใน 3 ก่อนถึงจะปล่อยตัวได้ นายสุรพงษ์กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับทางการกัมพูชาว่าจะทำอย่างไร อนุโลมหรือไม่ ทั้งนี้แนวทางช่วยเหลือไม่ได้ลงลึกไปถึงการแลกเปลี่ยนผู้ต้องหาสายลับกัมพูชาที่ถูกจำคุกที่อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ

เมื่อถามว่าต้องขอร้องพ.ต.ท.ทักษิณมาช่วยเจรจาหรือไม่ นายสุรพงษ์กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกับพ.ต.ท.ทักษิณ วันนี้นายกฯเดินทางไปด้วยตัวเอง ตนร่วมคณะไปด้วย เป็นเรื่องที่รัฐบาลไทยและกัมพูชาจะพูดคุยกัน ส่วนความร่วมมือการลงทุนไทย-กัมพูชานั้น จะพูดคุยต่ออย่างแน่นอน เรื่องการค้าขายระหว่างกันจะไม่เกี่ยวกับข้อพิพาทต่างๆ น่าจะมีความคืบหน้า เราเน้นเรื่องการค้าชายแดนให้เปิดระหว่างกันมากขึ้น ส่วนเรื่องการลงทุนด้านพลังงานในอ่าวไทย ต้องดูอีกครั้ง เป็นเรื่องของเอ็มโอยูที่รัฐบาลชุดก่อนๆ ทำไว้ การหารือในวันเดียวกันนี้ ไม่ใช่เรื่องดังกล่าว

ยิ่งลักษณ์บินเยือนกัมพูชา

เวลา 14.00 น. ที่ท่าอากาศยานทหารกองบิน 6 (บน.6) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสุรพงษ์ออกเดินทางโดยเครื่องบินพิเศษของกองทัพอากาศไปเยือนประเทศกัมพูชาอย่างเป็นทางการ เพื่อแนะนำตัวในโอกาสรับตำแหน่งใหม่ และส่งเสริมความสัมพันธ์ ความร่วมมือที่ใกล้ชิด ซึ่งเป็นการเยือนประเทศที่ 3 ในอาเซียนของนายกรัฐมนตรี

น.ส.ยิ่งลักษณ์ให้สัมภาษณ์ก่อนออกเดินทางว่า ยังไม่ทราบว่าการเดินทางไปครั้งนี้จะมีข่าวดีเรื่องของนายวีระและน.ส.ราตรีหรือไม่ เพราะคงต้องไปหารือในเบื้องต้น ประเด็นหลักและเป็นภารกิจแรกคือเราคงจะไปเปิดศักราชใหม่ในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชา และคงดูบรรยากาศเพื่อหารือเรื่องการช่วยคนไทยด้วย

เมื่อถามว่าการเยือนครั้งนี้จะมีการหารือเรื่องข้อพิพาทกรณีปราสาทพระวิหารหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่าขอดูจังหวะก่อน เพราะครั้งนี้ถือเป็นการเดินทางไปเยือนครั้งแรก แล้วจะรายงานให้ทราบ

ยันหาโอกาสช่วย"วีระ-ราตรี"แน่

เมื่อถามว่าทางการกัมพูชาระบุว่าพร้อมจะปล่อยตัวทั้ง 2 คนหากฝ่ายไทยหยิบยกขึ้นมาพูดคุย น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่าเราก็ยินดี และคงจะหยิบยกไปหารือ แต่ดุลยพินิจในการปล่อยตัวเป็นเรื่องของกัมพูชา ไม่สามารถเข้าไปก่ายก้ายได้

เมื่อถามว่าหากกัมพูชาปล่อยตัว ฝ่ายไทยจะมีของขวัญอะไรตอบแทนกลับไปหรือไม่ นายกฯกล่าวว่าในส่วนของการทูตคงจะเจรจาเรื่องการขอความช่วยเหลือมากกว่า ไม่ใช่การเจรจาต่างตอบแทน แต่เป็นการเจรจาในลักษณะการทำหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องช่วยเหลือคนไทยทุกคนไม่ว่าจะอยู่ประเทศไหน เราต้องทำทุกประเทศอยู่แล้ว

"วันนี้ดิฉันทำงานก็ถือว่าต้องทำงานรับใช้พี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน คุณวีระและคุณราตรีก็เป็นคนไทยเหมือนกัน ดิฉันก็ต้องทำหน้าที่ของดิฉัน และถ้ากัมพูชาปล่อยตัวมาก็ถือเป็นสิ่งที่ดีสำหรับประเทศไทยที่เราจะได้โอกาสเอาคนไทยกลับบ้าน"

เขมรจัดแถวต้อนรับอบอุ่น

เวลา 15.25 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์พร้อมนายอนุสรณ์ อมรฉัตร สามี, นายสุรพงษ์ นายสมปอง สงวนบรรพ์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ นางฐิติมา ฉายแสง โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เจ้าหน้าที่ และสื่อมวลชน เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติกรุงพนมเปญ โดยมีนางอึง กัตถาภาวี รมว.กิจการสตรี ปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีเกียรติยศ ต้อนรับ และเชิญนายกฯร่วมพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการที่สำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาพร้อมภริยารอต้อนรับ มีพิธีตรวจแถวทหารกองเกียรติยศ

เป็นที่สังเกตว่ากัมพูชาต้อนรับคณะของนายกฯไทยอย่างอบอุ่น ตลอดเส้นทางที่รถของคณะผ่าน มีเด็กนักเรียนและประชาชนยืนเรียงแถวริมทางเท้าตลอดเส้นทาง โบกธงชาติไทยพลิ้วไสว

จากนั้นนายกฯเข้าหารือข้อราชการกับสมเด็จฮุนเซน ก่อนเดินทางไปเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหมุนี พระมหากษัตริย์กัมพูชา ณ พระราชวังเขมรินทร์ จากนั้นเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำที่นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเป็นเจ้าภาพ ณ สำนักนายกรัฐมนตรีกัมพูชา และเดินทางกลับถึงประเทศไทยในวันเดียวกันเวลา 21.20 น.

ปูเผยผลหารือราบรื่น

น.ส.ยิ่งลักษณ์ เผยผลการหารือทวิภาคีกับสมเด็จฮุนเซน ว่า การหารือเป็นไปด้วยดี ถือเป็นการเปิดศักราชใหม่ของความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา และความสัมพันธ์นี้จะเป็นพื้นฐานนำไปสู่การพัฒนา และความร่วมมือด้านต่างๆ เพื่อประโยชน์ของประชาชนและประเทศไทย-กัมพูชา ยืนยันตรงกันจะไม่มีปัญหาใดมากระทบกระเทือนกับความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศและจะร่วมแก้ปัญหาอย่างสันติ ตามกลไกที่มีอยู่ สองฝ่ายจะส่งเสริมให้มีช่องทางติดต่อกันทุกระดับ

นายกฯ กล่าวว่า ในส่วนของพื้นที่พิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา เห็นพ้องจะปฏิบัติตามคำสั่งของศาลโลก โดยใช้กลไกคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (จีบีซี) กำหนดขั้นตอนรายละเอียด ซึ่งกัมพูชายืนยันพร้อมปรับปรุงกำลังที่อยู่บริเวณชายแดน แต่จะลดเมื่อไหร่ ขนาดไหน เป็นเรื่องที่ระดับเจ้าหน้าที่จะคุยกัน นอกจากนี้ สองฝ่ายพร้อมพิจารณาสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ที่จำเป็นโดยเฉพาะโครงข่ายการคมนาคมในกัมพูชา และพร้อมผลักดันการเปิดจุดผ่านแดนถาวรแห่งใหม่ที่บ้านหนองเอี้ยน อ.อรัญ ประเทศ-สตึงบท เพื่อรองรับการขยายตัวการขนส่งสินค้า

น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ส่วนเรื่องพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลเป็นเรื่องที่จะต้องมีการหารืออย่างเปิดเผย โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ร่วมกัน ในส่วนของไทยตนต้องนำข้อเสนอต่างๆ มาหารือในครม. ด้วย นอกจากนี้ ยังมีความร่วมมือเรื่องการแก้ปัญหาการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า การแลกเปลี่ยนการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมและปัญหายาเสพติดตามแนวชายแดน โดยจะให้ผู้ว่าฯ ของไทยและกัมพูชาที่มีจังหวัดติดกัน หารือร่วมกันเพื่อหามาตรการแก้ไขปัญหา นอกจากนี้ ยังมีความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว ซึ่งไทยจะส่งเสริมความร่วมมือด้าน ACMECS Single Visa ให้มีความคืบหน้ามากขึ้น

ฮุนเซนรับช่วยเร่งคดี"วีระ-ราตรี"

นายกฯ กล่าวถึงการช่วยเหลือนายวีระและน.ส.ราตรี ที่ถูกจำคุกอยู่ในกัมพูชา ว่า ได้หารือกับสมเด็จฮุนเซน เพื่อขอให้ช่วยเหลือว่าจะมีทางใดเพื่อขอให้อภัยโทษได้ สมเด็จฮุนเซน ยืนยันว่าคำตัดสินของศาลไม่สามารถก้าวล่วงได้ ตามกฎหมายต้องรับโทษ 2 ใน 3 ก่อน แต่ด้วยความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชา ที่ดีขึ้น สมเด็จฮุนเซน รับปากว่าจะหาช่องทางที่จะลดโทษให้บุคคลทั้งสองจนถึงจุดที่สามารถขอพระราชทานอภัยโทษได้ ซึ่งถือเป็นแนวโน้มที่ดีว่าบุคคลทั้งสองมีโอกาสจะได้รับการปล่อยตัวเร็วขึ้น



วุฒิฯจัดถกธรรมาภิบาลโยกย้าย

วันที่ 15 ก.ย. ที่อาคารวุฒิสภา คณะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล และอนุกรรมาธิการเสริมสร้างธรรมาภิบาลในภาครัฐ วุฒิสภา จัดเสวนาโต๊ะกลม "ธรรมาภิบาลในการแต่งตั้งโยกย้าย" โดยมีข้าราชการและอดีตข้าราชการระดับสูง รวมถึงสมาชิกวุฒิสภา เข้าร่วม

นายปรีชา วัชราภัย ผอ.สถาบันที่ปรึกษาเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในราชการ กล่าวว่า ระบบคุณธรรมในการโยกย้ายข้าราชการปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบันคือกลไกและการดำเนินงานที่จะนำไปสู่ผลลัพธ์ ไม่ได้เป็นไปตามระเบียบที่วางไว้ ปัญหาเกิดจากระบบปฏิบัติที่ทนต่อการกระทำที่ขัดต่อระเบียบหรือรัฐธรรมนูญ ฝ่ายข้าราชการที่ถูกกระทำไม่ได้นำข้อมูลมาเผยแพร่ต่อสาธารณะ เพื่อให้สังคมวินิจฉัย สิ่งที่ไม่เป็นธรรมจะยังคงมีต่อไปเรื่อยๆ หากไม่มีตัวอย่างการลุกขึ้นสู้ แล้วยังบอกว่าไม่เป็นไร คุณธรรมก็จะถูกละเมิดต่อไป ข้าราชการต้องลุกมาต่อสู้ อย่าสละสิทธิ์การใช้บทบัญญัติของกฎหมาย สิ่งที่เกิดขึ้นทุกวันนี้อย่าโทษฝ่ายการเมืองอย่างเดียวเพราะเจ้าหน้าที่รัฐยังคงคิดว่าถูกกระทำแล้วไม่เป็นไร

ด้านนายถวิล เปลี่ยนสี ที่ปรึกษานายกฯ อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวว่า ตนรับไม่ได้ที่มีการแทรกแซงระบบราชการในสมช. เชื่อว่าจะไม่เกิดประโยชน์ต่องาน รวมถึงอาจสร้างความแตกแยก แตกสามัคคีในหน่วยงาน และมั่นใจว่าแม้ไม่มีการเคลียร์ตำแหน่งที่เป็นโดมิโนจากสตช. มาถึงทำเนียบ ตนก็เป็นเป้าหมายที่จะถูกโยกย้ายให้ออกเพราะสิ่งที่ฝ่ายการเมืองพูดตลอด คือ มีการแบ่งฝ่าย มีความโกรธแค้น มีอคติ ทั้งที่นับแต่รัฐบาลชุดใหม่เข้ามาทำหน้าที่ ตนไม่เคยตั้งแท่นว่าจะมาท้าทายอำนาจทางการเมือง จะมาฟ้องก.พ.ค. หรือศาลปกครอง และจะขอต่อสู้ต่อไป ไม่ใช่เพื่อให้คืนในตำแหน่งเดิมแต่เพื่อศักดิ์ศรีและความถูกต้องของระบบราชการ



บิ๊กอ๊อดยันนายกฯไม่ได้ตีกลับโผ

เมื่อวันที่ 15 ก.ย. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารประจำปี ว่า ยังไม่ได้คุยรายละเอียดกัน เพราะเมื่อวันที่ 14 ก.ย. ที่ผ่านมา คุยกันแต่เรื่องของน้ำท่วม สัปดาห์หน้าคงจะหารือกัน เมื่อถามย้ำว่า นายกฯ ได้ส่งโผทหารกลับไปให้พิจารณาใหม่จริงหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า "ยังไม่ได้คุยเลยค่ะ"

ที่วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ถ.วิภาวดี พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหม กล่าวว่า เมื่อวันที่ 14 ก.ย. นายกฯ เรียกไปพบเพื่อพูดคุยเรื่องการแก้ปัญหาน้ำท่วม ไม่มีเรื่องโผโยกย้ายใดๆ ทั้งสิ้น อย่าไปเขียนหรือมองนายกฯ ในทางไม่ดีเลย และขณะนี้ยังไม่มีการขยับ

พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวอีกว่า หลังจากพูดคุยกับนายกฯ ได้คุยกับนายบัณฑูร สุภัควณิช เลขาธิการนายกฯ ถึงตำแหน่งประธานที่ปรึกษากระทรวงกลาโหม ที่ตั้งขึ้นในสมัย พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูล ณ อยุธยา รมว.กลาโหม เพื่อแก้ปัญหานายพลระดับสูง ในอัตราจอมพล ซึ่งเป็นตำแหน่งเฉพาะตัว เมื่อตั้งใครแล้วถ้าจะตั้งคนอื่นต่อหรือย้ายมาแทน ต้องขออนุญาตคณะรัฐมนตรี ดังนั้นการประชุมครม. จะขอให้เปิดตำแหน่งประธานที่ปรึกษากระทรวงนี้ไว้ แต่ถ้าครม.ไม่อนุมัติและสงวนตำแหน่งนี้ไว้ จะต้องประชุมคณะกรรมการการปรับย้ายนายทหารระดับนายพล เพื่อขอมติใหม่

เมื่อถามว่านายกฯ มีอำนาจเปลี่ยนแปลงหรือจำเป็นต้องมาประชุมร่วมกับเหล่าทัพ พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า นายกฯ ไม่จำเป็นต้องมาประชุมร่วมกับคณะกรรมการสภากลาโหม นายกฯ มีสิทธิ์ให้นโยบาย เพราะเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง และเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของกองทัพด้วย ฉะนั้นมีสิทธิ์สั่งการและให้นโยบาย แต่ขณะนี้นายกฯ ไม่ได้ทำ ถ้านายกฯ สั่งการมาจะปฏิบัติตามทันที เพราะตนเป็นทหาร เป็นรมว.กลาโหม ต้องทำตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา

รมว.กลาโหม กล่าวว่า การพิจารณาโยกย้ายไม่มีความขัดแย้ง เหลือเพียงตำแหน่งประธานที่ปรึกษากระทรวงกลาโหมเท่านั้น ขณะนี้ยังไม่มีการทบทวนรายชื่อผู้ที่ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหมที่คณะกรรมการได้เห็นชอบไปแล้วเมื่อวันที่ 1 ก.ย. ส่วนจะปรับหรือไม่ ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการที่จะประชุมต่อไป ยืนยันว่าจะพิจารณาทันส่งขึ้นทูลเกล้าฯ และขอโปรดเกล้าฯ ในวันที่ 1 ต.ค. นี้

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. กล่าวว่า พล.อ.ยุทธศักดิ์ ชี้แจงว่าอย่างไรก็เป็นไปตามนั้น ถ้าไม่เปิดตำแหน่งประธานที่ปรึกษากระทรวงกลาโหม ก็ไม่มีผลกระทบกับกองทัพบกอยู่แล้ว "ใจเย็นๆ ดีกว่าและคอยติดตามดูว่าจะโปรดเกล้าฯ มาอย่างไร อย่าให้ความสนใจมากนัก ทหารเป็นกลไกของรัฐบาลในการทำหน้าที่"



วธ.ปรับย้าย"ปรีชา"อธิบดีศาสนา

เมื่อวันที่ 15 ก.ย. แหล่งข่าวกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมว.ศธ. ได้ประสานมายัง วธ. เพื่อขอโอนย้ายนายอภินันท์ โปษยานนท์ อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) มาดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงของศธ. ซึ่งจะส่งผลให้ตำแหน่งอธิบดี สวธ. ว่างลง ทั้งนี้นางสุกุมล คุณปลื้ม รมว.วธ. จึงต้องพิจารณารายชื่อผู้บริหาร วธ. ที่มีความเหมาะสม โดยผู้บริหารที่คาดว่าจะได้รับการแต่งตั้งแทนตำแหน่งที่ว่างลง ได้แก่ นางปริศนา พงษ์ทัดศิริกุล จากผอ.สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย (สศร.) ไปเป็น อธิบดี สวธ. แทน และแต่งตั้งนายชาย นครชัย ผู้ตรวจราชการ วธ. ไปเป็นผอ.สศร. อย่างไรก็ตามการแต่งตั้งโยกย้ายผู้บริหาร วธ. ทุกตำแหน่งนั้นนางสุกุมล จะเสนอให้ที่ประชุม ครม. เห็นชอบวันที่ 20 ก.ย.นี้

นอกจากนี้นางสุกุมล ยังพิจารณารายชื่อผู้บริหารราชการ วธ. ระดับ 10 ที่นายสมชาย เสียงหลาย ปลัด วธ. เสนอให้แต่งตั้งโยกย้ายอีก 2 ตำแหน่ง เพื่อแทนตำแหน่งนายปรารพ เหล่าวานิช รองปลัด วธ. และนายสด แดงเอียด อธิบดีกรมการศาสนา (ศน.) ซึ่งเกษียณอายุราชการในเดือนก.ย.เรียบร้อยแล้ว โดยรายชื่อผู้บริหาร วธ.ที่คาดว่าจะได้รับการแต่งตั้งทั้ง 2 ตำแหน่ง ได้แก่ นายปรีชา กันธิยะ หัวหน้าผู้ตรวจราชการวธ. ไปเป็นอธิบดีศน. ส่วนนายเขมชาติ เทพไชย จากผู้ตรวจราชการวธ. ไปเป็นรองปลัดวธ.



ส.ว.สมชายเล็งส่งวุฒิขวางฎีกาแม้ว

เมื่อวันที่ 15 ก.ย. ที่รัฐสภา นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา มีวาระพิจารณาการยื่นฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

นายดุสิต จันทร์สถิตย์ ผอ.กองนิติการ กรมราชทัณฑ์ ชี้แจงว่า หลังตรวจสอบรายชื่อประชาชนที่เสนอยื่นฎีกา ได้ส่งเรื่องไปยังนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค อดีตรมว.ยุติธรรม ให้รับทราบ แต่ช่วงนั้นเป็นช่วงหาเสียงเลือกตั้ง หลังจากนั้นวันที่ 5 ส.ค. 54 ได้เสนอชื่อไปยังพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรมได้พิจารณา จึงมีผลผูกพันข้อกฎหมาย เรื่องที่ยื่นจึงตกค้างอยู่ที่สำนักงานรัฐมนตรี พอเปลี่ยนรัฐมนตรีแล้วพล.ต.อ.ประชา มาเปิดซองรายงานดูและสานเรื่องต่อ แต่ยังไม่ได้ให้ความเห็นโดยทันที จึงมีการสั่งตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาตรวจสอบอีกครั้ง ส่วนการทำความเห็นเสนอทูลเกล้าฯ เป็นอำนาจของรมว.ยุติธรรมโดยตรงที่เห็นเหมือนหรือต่างก็ได้ เรื่องการขออภัยโทษทางกรมราชทัณฑ์คงไปหยุดใครไม่ได้ เพราะเป็นเพียงหน่วยงานทางธุรการเท่านั้น และเรื่องนี้คงต้องฟังข้อสรุปจากคณะกรรมการตรวจสอบฎีกา

ด้านนายไพฑูรย์ มงคลหัตถี นิติกรชำนาญการ หัวหน้าฝ่ายอภัยโทษ กรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า กรมราชทัณฑ์เคยค้นคว้าหลักเกณฑ์ของผู้ยื่นว่ามีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดหรือไม่ พบว่าเคยมีกรณีที่ไม่จำเป็นต้องเกี่ยวพันกันทางสายเลือด โดยผู้ว่าฯ จังหวัดหนึ่ง ทำเรื่องขออภัยโทษให้กับประชาชนในจังหวัด กรมราชทัณฑ์ได้ดำเนินการให้ จากนั้นได้ยึดแนวทางนี้มาตลอด ส่วนเงื่อนไขที่ว่าผู้ต้องหาหลบหนีจะมีผลทำให้ฎีกาตกไปหรือไม่นั้น ยืนยันว่าไม่มีผล เพราะกฎหมายประมวลพิจารณาความอาญาระบุว่าผู้ต้องโทษที่ประสงค์ยื่นฎีกาไม่จำเป็นต้องอยู่ในการควบคุมของทางการ

นายสมชายกล่าวว่า คณะกรรมาธิการมีความเห็นว่าจะนำเรื่องนี้เสนอต่อประธานวุฒิสภา ทั้งนี้ไม่มีเจตนาจะสกัดการถวายฎีกา แต่ต้องการจะชี้ให้เห็นถึงกระบวนการที่มาไม่ถูกต้อง จึงต้องตรวจสอบ คาดว่ากรรมาธิการจะมีการหารือนอกรอบเพื่อขอความเห็นจากสมาชิกวุฒิสภา ก่อนเสนอต่อประธานวุฒิสภาภายในสัปดาห์หน้า



คอหวยแห่ถามเลขเด็ด"นายกฯปู"

เมื่อวันที่ 15 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงใกล้วันหวยออกปรากฏว่าทะเบียนรถของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ซึ่งเคยให้โชคมาแล้ว 2 งวดติด ยังคงเป็นที่สนใจของบรรดาคอหวย แม้ขณะนี้นายกฯ ยังคงใช้รถโฟล์ก ทะเบียน ฮน 333 กรุงเทพมหานคร คันเดิมอยู่ก็ตาม แต่บรรดาคอหวยยังติดตามความเคลื่อนไหวของนายกฯ ว่าใช้รถทะเบียนอะไร รวมถึงหมายเลขรถในขบวนติดตามทุกคันด้วย บางรายถึงขั้นโทร.ถามทีมงานนายกฯ รวมถึงสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล เพื่อนำไปเป็นเลขเด็ดลุ้นโชคในงวด 16 ก.ย. หากถูกอีกครั้งจะถือเป็นการให้โชค 3 งวดติดต่อกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการพูดคุยสอบถามคนใกล้ชิดนายกฯ ล่าสุดได้รับการยืนยันว่าวันที่ 16 ก.ย. นายกฯ ยังคงใช้รถโฟล์กคันเดิม คือ ทะเบียน ฮน 333 ส่วนรถในขบวนคันอื่นๆ ยังเป็นรถคันเดิม รวมทั้งรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ทะเบียน ฎก 4533 ที่เคยให้โชคเลขท้าย 3 ตัว เมื่องวดวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา ก็ยังอยู่ในขบวน

อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่าในขบวนรถติดตาม มีรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ อีกคันที่เดิมเป็นป้ายแดง ได้เปลี่ยนมาใช้ป้ายปกติ ทะเบียน ภข 888 กรุงเทพมหานคร ทำให้คอหวยต่างพากันนำไปซื้อลอตเตอรี่และเลขท้ายใต้ดินจำนวนมาก นอกจากนี้บรรดาคอหวยยังสอบถามอายุของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ซึ่งมีอายุครบ 44 ปีเต็ม ย่างเข้าสู่ปีที่ 45 ปี รวมทั้งยังสอบถามน.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นนายกฯ คนที่เท่าไหร่ของไทย เมื่อทราบว่าเป็นนายกฯ ลำดับที่ 28 และเป็นครม.ชุดที่ 60 ของรัฐบาลไทย ก็นำไปซื้อเลขด้วยเช่นกัน

0 comments:

Post a Comment

Blog Archive

Twitter Delicious Facebook Digg Stumbleupon Favorites More

 
Design by Free WordPress Themes | Bloggerized by Lasantha - Premium Blogger Themes | Grants For Single Moms