เมเปิ้ล พัชชุดาญ์ ฟ้องกองปราบฯกรี๊ดบิกินีเปิดก้น

 

”เมเปิ้ล” พัชชุดาญ์ พันธุ์พิพัฒน์ ดารา-นางแบบชื่อดัง พร้อมครอบครัว ร้องทุกข์กองปราบปราม ถูกนำภาพถ่ายเซ็กซี่ตัดต่อขึ้นปกวีซีดีโคโยตี้เต้นยั่วยวนทำให้เสียชื่อเสียง ย้ำตนไม่เคยทำแบบนั้นและไม่อยากให้คนอื่นโดนแบบตนอีก เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะตรวจสอบว่าเข้าข่ายความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาหรือไม่ และตรวจสอบหาผู้กระทำผิดที่ทำการตัดต่อวางจำหน่ายแผ่นดีวีดีดังกล่าวต่อไป

ทำเอาถึงกับโกรธจนเลือดขึ้นหน้าเลยทีเดียว สำหรับดารานางแบบสาวเซ็กซี่ ”เมเปิ้ล” พัชชุดาญ์ พันธุ์พิพัฒน์ หลังโดนมือดีนำภาพไปตัดต่อขึ้นปกวิดีโอซีดีโคโยตี้แนววาบหวิวหลายเวอร์ชั่น โดยบอกว่าเป็นภาพการแสดงของสาวเมเปิ้ล ซึ่งขณะนี้วีซีดีชุดดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ไปอย่างแพร่หลายแล้ววางขายเกลื่อนตลาดนัด ทำเอาดาราสาวและครอบครัวเสื่อมเสียชื่อเสียงเป็นอย่างมาก
 

ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 29 มิ.ย. 2554 ที่กองปราบปราม ”เมเปิ้ล” พัชชุดาญ์ พันธุ์พิพัฒน์ พร้อมด้วยนายอภิชัย พันธุ์พิพัฒน์ อายุ 61 ปี นายกเทศมนตรีเทศบาล ต.นาบอน อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช และนางมะลิวัลย์ พันธุ์พิพัฒน์ บิดาและมารดา เดินทางเข้าแจ้งความต่อ พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. เพื่อดำเนินคดีกับมือตัดต่อดังกล่าวในข้อหาละเมิดสิทธิ์ส่วนบุคคลและทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ภายหลังนางแบบสาวเมเปิ้ลเผยว่า ปกวีซีดีดังกล่าวเป็นรูปตนซึ่งถูกตัดต่อ โดยไม่ได้รับความยินยอมจากตนมาก่อน ซึ่งเนื้อหาข้างในจะเป็นสาวมาเต้นโคโยตี้มาเต้นวาบหวิวยั่วยวนวางขายเกลื่อนตลาด ทำให้ตนและครอบครัวเสื่อมเสียชื่อเสียง ซึ่งตนอยากจะบอกทุกคนว่าตนไม่เคยไปทำอะไรแบบนั้น
 

”มีเพื่อนของน้องสาวไปเดินตลาดนัดยิ่งเจริญแล้วเห็นวีซีดีดังกล่าวมีรูปหนูขึ้นปก เลยมาบอกหนูว่ามีเรื่องแบบนี้ โดยวีซีดีที่เห็นก็ไม่ใช่วีซีดีโป๊ แต่เป็นแบบโคโยตี้เต้นยั่วยวน ซึ่งข้างในไม่ใช่หนูเลย มีเพียงปกเท่านั้น  ซึ่งหนูไม่เคยไปทำอะไรแบบนั้น ซึ่งวีซีดีดังกล่าวหนูคิดว่าน่าจะถูกเผยแพร่ไปทั่วแล้ว ถึงหนูจะเคยถ่ายแฟชั่นแนวเซ็กซี่มาแล้ว แต่ใช่ว่าชีวิตจริงหนูจะใส่บิกินีเปิดก้นเดินทั่วไปซะที่ไหน การทำงานกับชีวิตจริงมันแตกต่างกัน วันนี้หนูและคุณพ่อคุณแม่ก็ได้มาแจ้งความเอาผิดกับผู้ที่กระทำดังกล่าว หากจับได้ก็ดีไม่อยากให้ไปทำแบบนี้กับใครอีก และเพื่อแจ้งให้ทุกคนรู้ว่ารูปหนูถูกตัดต่อ หนูไม่เคยไปทำอะไรแบบนั้นค่ะ” เมเปิ้ล กล่าว
 

ด้าน พ.ต.อ.ประสพโชค เผยว่า ตนได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.เกรียงไกร ขวัญไตรรัตน์ พงส.(สบ2) กก.1 บก.ป.รับเรื่องและสอบปากคำผู้เสียหายไว้ ก่อนจะประสานพนักงานสอบสวน สน.บางเขน สอบสวนว่าเข้าข่ายความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาหรือไม่ และตรวจสอบการวางจำหน่ายแผ่นดีวีดีดังกล่าวต่อไป