เป็นคู่ที่สวีตหวานสุดๆในช่วงนี้เลยก็ว่าได้ สำหรับคู่รักข้าวใหม่ปลามัน ชาคริต แย้มนาม และ วุ้นเส้น วิริฒิพา ภักดีประสงค์ ล่าสุดเปิดตัวอย่างเป็นทางการโดยควงคู่รับทรัพย์งานแรกโกยค่าตัวไปกว่า 5 แสนบาท พร้อมอัพเดตเรื่องราวความรักในช่วงนี้ด้วยว่ากำลังแฮปปี้สุดๆหลังควงกันไปสวีตไกลถึงอเมริกา ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวยังสังเกตเห็นแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายของแต่ละฝ่าย จึงสอบถามว่าแหวนนี้ได้แต่ใดมา ซึ่งทั้งคู่เปิดใจยอมรับว่า แลกแหวนแทนใจกันตอนไปเที่ยวอเมริกา ด้านสาววุ้นเส้นแอบแซวฉากจูบ “อั้ม พัชราภา” ในละครคู่แค้นแสนรัก ทำเอาหนุ่มชาคริตรีบออกตัวชี้แจงแบบทันควันว่า “ก็แค่บทบาทในละคร ทำแล้วได้ตังค์ ถ้าหลีกเลี่ยงได้ก็จะหลีกเลี่ยง เพราะก็รู้สึกหวงตัวเองเหมือนกัน”
วุ้นเส้น : “วันนี้มาออกงานคู่กัน ก็มาทำงาน ใครมีอะไรสงสัยก็ถามไปเลยทีเดียวไม่ต้องเขียนกันเอง”
ฟันค่าตัว 5 แสน จริงไหม
ชาคริต : “ไม่มี ตอนนั้นพูดเล่น ได้ทำงานด้วยกัน อยู่กันด้วยก็ดีครับ”
วุ้นเส้น : “ค่าตัวปกติ”
ทีมงานติดต่อให้มาออกงานนี้นานหรือยัง
วุ้นเส้น : “ก็สักพัก ก่อนไปอเมริกาพอกลับมาก็ทำงาน”
มีงานที่ 2 จ่อคิวหรือยัง
ชาคริต : “ถ้ามีก็ยินดี”
จะมีงานถ่ายแฟชั่นด้วยกันไหม
ชาคริต : “ก็มีคุย ด้วยคิวผมก็ยัง งงๆอยู่เพราะมีละครอยู่ด้วย ส่วนน้องเขาก็มีงานที่คิวค่อนข้างจะยุ่ง”
วุ้นเส้น : “มีติดต่อมาแล้วก็กำลังคุยอยู่”
ทริปไปเที่ยวเมืองนอกเป็นอย่างไรบ้าง
ชาคริต : “ก็สนุกดีครับ (สนุกกว่าการไปอเมริกาครั้งก่อน ๆ ไหม) ก็ดีกว่าครับ พาเดินกินเดินเที่ยวจนเจ็บเท้า (เห็นว่าแท็กรูปเยอะ) เพื่อน ๆ คงแท็กในเฟซบุ๊กผมเอง ก็อาศัยดูของชาวบ้าน เล่นคอมไม่้เป็น”
เห็นว่าสวีตกันมาก
ชาคริต : “เพื่อนๆอยู่ที่นู่นเพียบ เพื่อนๆเจอวุ้น ทุกคนก็แฮปปี้ครับ เขาก็ยินดีด้วย”
ได้ข่าวว่าแลกแหวนกันด้วย
ชาคริต : “ใช่ครับผม”
วุ้นเส้น : “เป็นเครื่องประดับประมาณนึง”
เป็นการตีตราจองไว้ก่อน?
ชาคริต : “ถ้ามีข่าวดีแล้จะบอกครับ”
เป็นแหวนร้านเดียวกันไหม
ชาคริต : “ร้านเดียวกันครับ”
ผู้สื่อข่าวถามว่าตอนนี้ว่าวุ้นเส้นอยู่ในฐานะอะไร หนุ่มชาคริตก็เอาแต่ม้วนต้วน บอกแต่เพียงว่า ก็ธรรมชาติเรียกว่าอะไร (แนะนำให้เพื่อนรู้จักวุ้นเส้นว่าอย่างไร) ”ก็เกิร์ลเฟรนด์”
เหมือนกับรักครั้งนี้ต้องมั่นใจ ก่อนจะพูดว่าสถานะคืออะไร
ชาคริต : “ผมว่าทุกอย่างก็ต้องใช้เวลา ประสบการณ์ที่ผ่านมาทั้งคู่ก็มีหลายอย่างที่จะสอนเรา ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติและใช้เวลาศึกษากันจะดีกว่าที่จะไปเร่งรีบ”
รักครั้งนี้เรียกว่าเป็นรักมั่นใจ?
ชาคริต : “ก็มั่นใจครับ”
พาไปเจอครอบครัวหรือยัง
ชาคริต : “คุณแม่เจอแล้วครับ”
วุ้นเส้น : “ครอบครัวพี่คริตน่ารักดี อยู่ด้วยแล้วสบายๆไม่อึดอัด”
ช่วงนี้ตัวติดกันมาก ขนาดฟิตติ้งยังต้องไปเฝ้า
ชาคริต : “ว่างไง พอดีเป็นละครของน้องจ๋า ยศสินี แล้วเราสนิทกันด้วยก็เลยไปนั่งรอวุ้น เสร็จแล้วจะได้ไปกินข้าวต่อ”
วุ้นเส้น : “ว่างก็ต้องเรียบใช้เวลาก่อน เดี๋ยวเขาจะยุ่ง”
เป็นช่วงโปรโมชั่นหรือเปล่า
ชาคริต : “เกินวัยแล้วครับ”
หลังจากนี้มีแพลนเที่ยวต่างจังหวัดไหม
ชาคริต : “ทำงานหาเงินต่อก่อนดีกว่าครับ”
วุ้นเส้น : “ไปเที่ยวมานานเกินพอ เก็บตังค์ก่อนแล้วกัน”
มองอนาคตอย่างไรบ้าง
ชาคริต : “ก็ต้องทำให้ดีที่สุด ถ้ามีข่าวดีแล้วจะบอก”
เพื่อนว่าอย่างไรบ้างกับความรักในครั้งนี้
วุ้นเส้น : “ไม่ว่าอะไรค่ะ อยู่ที่เราตัดสินใจอยู่แล้ว ทุกคนก็โอเคกับพี่คริตเพราะรู้จักกันหมดอยู่แล้ว”
เราปราบคริตอยู่หมัดไม่เลื้อยไปไหนอีกแล้ว
วุ้นเส้น : “ไม่รู้เหมือนกัน (หัวเราะ) เขาไม่ได้เป็นคนอย่างนั้นตั้งแต่แรก คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา ข่าวต่างๆก็ไม่ได้มีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของเรา”
คนจะมองว่าคาสโนว่ากับคาสโนวี่
วุ้นเส้น : “มันอยู่ที่คนรอบข้างไม่รู้จักเราจริงๆแล้วตั้งให้เราเอง”
ความรักครั้งนี้ทำให้เราปรับตัวยังไงบ้าง
ชาคริต : “ก็นี่แหละตลอด 7 ปีที่ผ่านมา เพิ่งจะกลับมาแล้วรู้สึกว่าพรุ่งนี้ไปกินข้าวที่ไหนดีได้ (วุ้นเส้นทำให้เรามีความสุขมากขึ้น) ก็สุขมากขึ้น โชคดีด้วยที่มันเป็นช่วงที่เราแบ่งเวลาได้พอดี”
วุ้นเส้นให้เวลามากขึ้นไหม
วุ้นเส้น : “ให้เวลามากค่ะ เวลาว่างก็เจอกัน รู้สึกว่าเขาทำงานน้อยลงด้วยค่ะ”
รับงานน้อยลงเพื่อวุ้นเส้นหรือเปล่า
ชาคริต : “ก็กะจะรับละครทีละเรื่องอยู่แล้วเพราะที่ผ่านมามันไม่ไหวแล้ว เมื่อก่อนมันได้นะ จะอายุ 33 ปีแล้วร่างกายจะไม่รอด เลือกที่จะรับน้อยลงเพื่อให้มันมีคุณภาพชีวิต”
วุ้นเส้น : : “เพื่อสุขภาพเขาด้วย อยากให้พักผ่อนเยอะๆ”
เตรียมรับมือกับข่าวฉาวที่จะตามมาอย่างไรบ้าง
วุ้นเส้น : “มันมีมาก่อนที่จะรู้จักกันอีก ก็เลยเข้าใจกัน”
ชาคริต : “เราไม่ต้องมานั่งเสียเวลาคุย ก็รู้สึกแคร์เขามากกว่า แค่คนรอบข้างรู้ก็พอแล้ว”
ผู้สื่อข่าวถามถึงละครเรื่อง คู่แค้นแสนรัก ที่มีฉากจูบ อั้ม พัชราภา งานนี้สาววุ้นเส้นจะว่ายังไง “เออ..ดูอยู่เหมือนกัน จูบใหญ่เลย ด้านชาคริตรีบโอดโอยขึ้นมาทันทีว่า มันอยู่ในบท เป็นการแสดงไม่ได้คิดอะไรอยู่แล้ว เป็นไปไม่ได้ ทำเพราะได้ตังค์ครับ ถ้ามันสมเหตุสมผล ในฐานะนักแสดงเราก็โอเค แต่ว่าถ้าไม่จำเป็น หลีกเลี่ยงได้เราก็จะหลีกเลี่ยง ธรรมชาติเราเองก็รู้สึกหวงตัวเองเหมือนกันนะบางที”
ขอบคุณ
sanook.com
0 comments:
Post a Comment