ฝังทั้งเป็น4ศพ สยองที่สระบุรี วัดโดเรมอนจม อ่างทองยังอ่วม เด็กกำพร้าไร้ที่อยู่
![]() พินาศ - หน่วยกู้ภัยตรวจซากตึกห้องเช่า 3 ชั้น เชิงเขาบ้านเขาตะกร้า ต.ปากข้าวสาร อ.เมือง จ.สระบุรี ที่ถล่มครืนลงมาทั้งหลัง มีผู้เสียชีวิต 4 ราย คาดสาเหตุเกิดจากฝนตกหนักหลายวันจนดินทรุด ตามข่าว |
ศอส.สรุปท่วมอยู่16จว.
วันที่ 12 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส. กฤษณา สีหลักษณ์ รมต.ประจำสำนักนายกฯ แถลงถึงสถานการณ์โคลนถล่ม ที่ อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ ว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่งผลให้บ้านเรือนพังทลาย 61 หลัง มีผู้เสียชีวิตและสูญหาย 8 คน และบาดเจ็บหลายราย ซึ่งนายกฯ สั่งการให้ซ่อมแซมสะพาน ถนน และสร้างศูนย์อพยพให้ประชาชน รวมทั้งดูแลเรื่องระบบเตือนภัย ส่วนน้ำป่าไหลหลากที่จ.สระบุรี ที่เกิดจากอ่างเก็บน้ำเขารวกแตก ทำให้น้ำไหลทะลักลงสู่เบื้องล่าง สร้างความเดือดร้อนมาก
น.ส.กฤษณา กล่าวว่า ศูนย์สนับสนุนการอำนวยการและการบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัยและดินโคลนถล่ม (ศอส.) สรุปพื้นที่ประสบอุทกภัยมี 16 จังหวัด 69 อำเภอ 516 ตำบล 2,820 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 202,760 ครัวเรือน เสียชีวิต 80 ราย สูญหาย 5 ราย ซึ่ง รัฐบาลโดยนายกฯ สั่งให้จัดงานรวมพลังไทยช่วยภัยน้ำท่วม ในวันที่ 14 ก.ย. เพื่อระดมความช่วยเหลือและรับบริจาคช่วยผู้ประสบภัย
เตรียมจัดรายการเตือนภัย
นายวิม รุ่งรัตนจินดา เลขานุการรมต.ประจำสำนักนายกฯ เผยว่า รัฐบาลจะจัดทำรายการ 'เตือนภัยประเทศไทย' ทางช่อง 11 เวลา 20.30-21.00 น. ทุกวัน ตั้งแต่วันที่ 12 ก.ย. นี้ เพื่อสื่อสารให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูล จากศูนย์เตือนภัยต่างๆ และจะเปิดสายฮอตไลน์ให้ประชาชนที่เดือดร้อนได้แจ้งขอความช่วยเหลือเข้ามา
เตือนพื้นเสี่ยงโคลนถล่ม35จว.
นายศรีสมบัติ พรประสิทธิ์ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะประธานการประชุมศอส.กล่าวว่า ทั่วทุกภาคของประเทศมีฝนตกชุกหนาแน่นและตกหนักถึงหนักมาก โดยเฉพาะบริเวณ จ.ตาก กำแพงเพชร พิจิตร เพชรบูรณ์ ลพบุรี อุทัยธานี สระบุรี ชัยภูมิ นคร ราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี กาญจนบุรี ราชบุรี นครนายก ปราจีนบุรี สระ แก้ว ระยอง จันทบุรี ตราด ชุมพร สุราษฎร์ธานี ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง พัทลุง สงขลา และสตูล จึงให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านของทั้ง 35 จังหวัด ระมัดระวังอันตรายจากภาวะฝนตกหนักที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่ม ส่วนประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง ตั้งแต่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาลงมา ให้เฝ้าระวังภาวะน้ำล้นตลิ่งอย่างใกล้ชิด ติดตามสถานการณ์น้ำเป็นระยะ เสริมกระสอบทรายเป็นแนวป้องกัน พร้อมขนย้ายทรัพย์สินและสิ่งของมีค่าขึ้นที่สูง
นายศรีสมบัติ กล่าวว่า ขอเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย 4 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ สตูล ตรัง สงขลา และพัทลุง ให้เฝ้าระวังดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากในระยะ 1-2 วันนี้ โดยเฉพาะ อ.ทุ่งหว้า อ.ละงู อำเภอมะนัง อ.ควน กาหลง อ.ควนโดน จ.สตูล อ.ปะเหลียน อ.ย่าน ตาขาว จ.ตรัง อ.รัตภูมิ จ.สงขลา
เขื่อนภูมิพลลดระบายน้ำ
นายวีระ วงศ์แสงนาค รองอธิบดีกรมชล ประทาน เปิดเผยว่า ขณะนี้เขื่อนหลายแห่งมีระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น ที่เขื่อนภูมิพลวันที่ 12 ก.ย. มีน้ำไหลเข้าเขื่อน 117 ล้านลบ.ม. เพิ่มขึ้นจากวันก่อน ที่มีน้ำไหลเข้าอ่าง 102 ล้านลบ.ม. ที่เขื่อนสิริกิติ์ปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนลดลงเหลือ 72 ล้านลบ.ม. จากเดิม 91 ล้านลบ.ม. แต่ยังมีปริมาณน้ำในเขื่อนมากถึง 95 เปอร์เซ็นต์ของความจุเขื่อน เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณน้ำในเขื่อนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเพียงวันเดียวน้ำเพิ่มขึ้นถึง 8 เปอร์เซ็นต์ โดยน้ำไหลเข้าอ่างวานนี้ 94 ล้านลบ.ม. จากเดิมที่มีน้ำไหลเข้า 70 ล้านลบ.ม. หากยังมีปริมาณน้ำสะสมเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเช่นนี้ไปทุกวัน อีกประมาณ 7-10 วัน น้ำก็จะเต็มเขื่อน
นายวีระ กล่าวว่า กรมชลฯ ได้ประสานไปยังกฟผ.ให้ช่วยลดการระบายน้ำจากเขื่อนภูมิพลลงจาก 30 ล้านลบ.ม.ต่อวัน ให้เหลือ 24 ล้านลบ.ม.ต่อวัน เพื่อไม่ให้น้ำถล่มจ.นครสวรรค์อีกระลอก
กทม.ระบายน้ำทางหลักก่อน
ที่ศาลาว่าการกทม. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ได้สั่งการให้ ผอ.เขต ทั้ง 50 เขต สำรวจพื้นที่ที่เป็นปัญหา โดยให้หารือกับ สำนักการโยธา (สนย.) และสำนักการระบายน้ำ (สนน.) เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างถาวร โดยปัญหาน้ำท่วมเกิดขึ้นทุกปี ต้องขอโทษประชาชนที่อยู่ในซอยต่างๆ ที่ กทม. ต้องระบายน้ำจากพื้นที่ ที่เป็นเส้นทางหลักก่อน ทำให้หลายคนอาจเดือดร้อนได้ สั่งให้ เขตและสนน. แก้ไขปัญหาน้ำท่วมให้รวดเร็ว ตนเป็นห่วงพื้นที่ตะวันออกมากที่สุด เพราะยังเป็นพื้นที่ที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำ และสูญเสียแก้มลิงธรรมชาติที่สำคัญที่สุดไปคือที่สนามบินสุวรรณภูมิ ขณะที่ไม่มีอะไรมาทดแทนการระบายน้ำจึงยังมีปัญหา
นายสัญญา ชีนิมิตร ผอ.สนน. กล่าวว่า สำหรับระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาขณะนี้อยู่ที่ 1.80 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ส่วนปริมาณน้ำวัดจากเขื่อนพระราม 6 และแม่น้ำเจ้าพระยา มีปริมาณ 3,745 ลบ.ม.ต่อวินาที ขณะที่ปริมาณน้ำที่ไหลเข้าสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งวัดได้ที่ประตูระบายน้ำบางไทร จ.พระนครศรี อยุธยา อยู่ที่ 2,700 ลบ.ม.ต่อวินาที ต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด
'อ่างทอง'เด็กกำพร้า150คนหนีน้ำ
ที่จ.ปทุมธานี น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นทำให้น้ำในคลองรังสิตประยูรศักดิ์ เอ่อล้นท่วมบ้านเรือน ต.บางพูน อ.เมือง สูง 1-2 เมตร นอกจากนี้น้ำเจ้าพระยาล้นคันกั้นน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชน วัด โรงเรียน ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ในพื้นที่อ.เมือง อ.สามโคก โดยที่โรงเรียนวัดบางเดื่อ ต.บางเดื่อ อ.เมือง น้ำท่วมชั้นล่างอาคารเรียนสูง 30-80 ซ.ม. ต้องย้ายเด็กขึ้นไปเรียนชั้น 2 และระมัดระวังเด็กตกน้ำ ส่วนที่วัดต่างๆ ประชาชนที่เดินทางไปทำบุญในวันพระ ต้องเดินลุยน้ำอย่างทุลักทุเล
![]() ตึกถล่ม- ห้องแถวให้เช่าสูง 3 ชั้นในต.ปากข้าวสาร อ.เมือง จ.สระบุรี พังถล่มทับร่างนายสิทธิชัย ประเสสัง ซึ่งพักอยู่ชั้นล่างได้รับบาดเจ็บ ส่วนภรรยาและลูกสาววัย 4 ขวบครึ่งนอนสิ้นใจอยู่ข้างๆ สันนิษฐานสาเหตุอาจเกิดจากฝนตกหนักจนดินทรุด เมื่อ 12 ก.ย. |
ที่จ.อ่างทอง น้ำเจ้าพระยาทะลักพังคันกระ สอบทราย ที่หมู่ 1 ต.ตลาดกรวด อ.เมือง 3 จุด ทำให้น้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนกว่า 100 หลัง คาเรือน และทะลักเข้าท่วมวัดตาลเจ็ดช่อ ซึ่งเป็นสถานสงเคราะห์รับเลี้ยงเด็กกำพร้า สูงกว่า 2 เมตร ส่งผลกระทบกับเด็กกำพร้า 150 คน ต้องรวมตัวอยู่ศาลาการเปรียญ และมีเพียงอาหารกระป๋องรับประทานเท่านั้น ส่วนที่ต.จำปาหล่อ คันดินกั้นน้ำบริเวณหมู่ที่ 5 พัง น้ำทะลักเข้าท่วมหมู่ 3,4,5,6 อย่างรวดเร็วกระทบบ้านเรือนกว่า 500 หลัง
'สระบุรี'ตึกถล่ม-แม่กอดลูกดับ
ที่จ.สระบุรี เวลา 06.10 น. วันเดียวกัน ได้เกิดเหตุตึกเลขที่ 88/1 หมู่ 3 ต.ข้าวสาร อ.เมือง ซึ่งเป็นตึกสามชั้น เป็นห้องเช่า ชั้นล่างเป็นที่จอดรถ ชั้น 2-3 เป็นห้องพัก 10 ห้อง สร้างอยู่เชิงเขาตะกร้า ถล่มลงมา เนื่องจากพื้นดินเชิงเขาทรุดจากฝนตกหนักติดต่อกันหลายวันจนพื้นฐานทรุด มีผู้เสียชีวิตภายในตึก และมีผู้ติดอยู่ภายใน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเกิดเหตุมีผู้อาศัยภายในวิ่งหนีออกมาได้หวุดหวิด 2 คน โดยบาดเจ็บที่ขาเล็กน้อย ขณะที่มีผู้ติดอยู่ภายในที่ยังมีชีวิต ร้องขอความช่วยเหลือจากซากตึกห้องริม ห้องที่ 10 ชั้นล่าง ที่ถูกซากตึกชั้นบนทับอยู่ภายใน 3 คน ส่งเสียร้องขอความช่วยเหลือ เบื้องต้นทราบว่าชื่อนายสิทธิชัย ประเสสัง อายุ 28 ปี พ่อค้าขายโทรศัพท์มือถือ บ้านเดิมอยู่ที่ 33/65 ต.คลอง หลวง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ถูกคานทับ แขนขวา ขยับตัวไม่ได้ ในขณะที่อาคารชั้นบนสามารถถล่มลงมาอีกได้ทุกเมื่อ ข้างๆ มีศพภรรยา นั่งพิงผนังตึกกอดศพลูกสาววัย 4 ขวบ
ใช้8ชั่วโมงช่วยคนเจ็บ
ต่อมาหน่วยกู้ภัยสว่างรัตนตรัยธรรมสถาน สระบุรี และหน่วยกู้ภัย จ.พระนครศรีอยุธยา และ ร่วมกตัญญู รวมทั้งกู้ภัยหลายหน่วยมาช่วยกันค้นหา โดยมีนายอารี ไกรนรา เลขานุการรมว.มหาดไทย เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ ทั้งนี้หน่วยกู้ภัยระดมกำลังหาทางช่วยเหลือ โดยใช้แม่แรงยกขนาดใหญ่ค้ำยันคานตึก เพื่อป้องกันตึกถล่มทับซ้ำ และเจาะฐานล่างเพื่อคลานลอดเข้าไปช่วยพยายามให้เครื่องช่วยหายใจ แต่นายสิทธิชัย ไม่ยอมรับ เพราะยังช็อกกับเหตุการณ์ที่ภรรยาและลูกเสียชีวิตต่อหน้าต่อตา
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้นำศพนางระรินทร์ รื่นเรณู อายุ 28 ปี และด.ญ.รวิท์วิภา ประเสสัง ภรรยาและลูกสาวของนายสิทธิชัยออกมาได้ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงเร่งวางแผนนำตัวนายสิทธิชัยออกมา โดยต้องเปลี่ยนแผนจากเจาะฐานล่าง เป็นเจาะช่องข้างบนตึก เพราะเกรงว่าตึกจะถล่มซ้ำ โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปช่วยนายสิทธิชัยออกมาได้และนำตัวส่งโรงพยาบาลศูนย์สระบุรี โดยนายสิทธิชัย บาดเจ็บตามลำตัว โดยเฉพาะแขนขวา หลังจากที่เร่งระดมช่วยเหลือกว่า 8 ชั่วโมง
สลดดับ4ราย-เจ้าของตึกลมจับ
ขณะเดียวกัน ทางหน่วยกู้ภัยได้เร่งค้นหาผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตในห้องต่างๆ โดยที่ห้องหมายเลข 9 พบศพน.ส.วิลาสินีย์ จันดา อายุ 38 ปี เจ้าหน้าที่แผนกสาธารณสุข เทศบาลตำบลกุดนกเปล้า อ.เมือง จ.สระบุรี บ้านเดิม อยู่เลขที่ 118 หมู่ 18 ต.หนองหญ้าปล้อง อ.วังสะพุง จ.เลย และห้องหมายเลข 7 พบศพน.ส.ชลดา เสน่ห์หา พนักงานโรงปูนซีเมนต์ทีพีไอ สระบุรี
ด้านร.ต.อ.ผดุงพล กมลบูรณ์ ร้อยเวร สภ. เมือง เผยว่า ได้สอบปากคำนางเสาวนีย์ ศิริพัฒนานนท์ อายุ 58 ปี เจ้าของตึก แต่ยังไม่ได้ให้ปากคำมากนัก เพราะเป็นลมล้มพับไปก่อนแล้ว จากนี้จะเรียกวิศวกรผู้ก่อสร้างตึกมาสอบสวน เบื้องต้นทราบว่ามีการขออนุญาตก่อสร้างถูกต้อง โดยตึกนี้สร้างได้เพียง 1 ปี 4 เดือนเท่านั้น
ด้านนายถาวร พรหมมีชัย ผู้ว่าฯสระบุรี เผยว่า ขณะนี้พบว่ามีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 4 ราย บาดเจ็บสาหัส 1 ราย โดยจะให้เงินช่วยเหลือผู้เสียชีวิตที่เป็นเสาหลักของครอบครัว 3 รายๆ ละ 5 หมื่นบาท ส่วนเด็กจะช่วยเหลือ 2.5 หมื่นบาท พร้อมส่งจิตแพทย์เข้าช่วยเหลือญาติและครอบครัว
น้ำท่วมวัดโดเรมอน-สุพรรณ
ที่จ.สุพรรณบุรี น้ำในแม่น้ำท่าจีนสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ประชาชนที่อยู่ริมแม่น้ำท่าจีนได้รับความเสียหายทั้งสวนผลไม้ บ้านเรือน รวมถึงนาข้าว และวัด ที่มีน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร น้ำยังไหลข้ามถนนสายหลักที่ประชาชนต้องใช้สัญจรในการเดินทางเข้าตัวเมืองส่งผลให้รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ ที่วัดสำปะซิว ต.สนามชัย อ.เมือง น้ำท่วมวัดเสียหายเกือบทั้งหมดแล้ว พระต้องใช้เรือสัญจร วิหารฐานสำเภาที่เก่าแก่ น้ำก็ไหลเข้าท่วมส่วนอุโบสถที่มีการเขียนภาพโดเรมอนสอดแทรกเพื่อเป็นปริศนาธรรมขณะนี้น้ำก็มิดบันไดแล้ว ถ้าสูงกว่าที่เป็นอยู่ก็น่าจะเข้าท่วมภาพวาด ขณะที่ตลาดเก้าห้อง ยังมีน้ำท่วมกว่า 1.5 เมตร ต.บางปลาม้า อ.บางปลา ม้า เจ้าหน้าที่เร่งสูบน้ำตลอด 24 ชั่วโมง
พัทยาท่วมยับสูญ100ล.
ที่จ.ชลบุรี ภายในตลาดน้ำ 4 ภาค พัทยา เขตติดต่อระหว่าง ต.หนองปรือ อ.บางละมุง กับ อ.สัตหีบ น้ำท่วมตลาดในพื้นที่ทั้งหมด 62 ไร่ ตัวอาคารเรือนไทย ร้านค้า และอาคารสำนักงานถูกน้ำท่วมหมด ไม่สามารถรับนักท่องเที่ยวได้ ความเสียหายประเมินเบื้องต้น ประมาณ 100 ล้านบาท
ที่จ.ปราจีนบุรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัว หน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมาแจกจ่ายถุงยังชีพ 2,500 ชุด ให้ประชาชนในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม 3 อำเภอ ประกอบด้วย วัดเพชรเอม ม.8 อ.กบินทร์บุรี สถานีอนามัยท่าตูม ม.1 ต.ท่า ตูม อ.ศรีมหาโพธิ ชุมชนท่าน้ำ ม.6 เขตเทศ บาลตำบลประจันตคาม อ.ประจันตคาม
'สระแก้ว'ต่างด้าวน้ำซัดหาย1
ที่จ.สระแก้ว หน่วยกู้ภัยอปพร.และกู้ภัยร่วมกตัญญู อ.คลองหาด รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีชาวเขมรที่จะลักลอบเดินทางไปทำงานกทม. ถูกน้ำพัดจมหายไป 4 คน ที่บริเวณฝายกั้นน้ำหมู่ที่ 13 ต.คลองหาด อ.คลองหาด จ.สระแก้ว จากการสอบสวนทราบว่า แรงงานทั้ง 4 เดินข้ามน้ำเพื่อลักลอบเดินเข้ามาทำงานในประเทศไทย แต่ถูกน้ำซัด เบื้องต้นช่วยเหลือได้ 3 คน ยังค้นหาแรงงานชาวกัมพูชาอีกคนต่อไป
ที่จ.ตราด จากฝนตกหนักทำให้น้ำท่วมถนนสุขุมวิทขาเข้าเมือง ช่วง ต.แสนตุ้ง อ.เขาสมิง สูง 50-120 ซ.ม. น้ำในแม่น้ำเขาสมิง เพิ่มระดับสูงถึงขั้นบันไดเขื่อนขั้นสุดท้าย ทำให้น้ำทะลักเข้าสู่ท่อระบายน้ำและเข้าท่วมบ้านเรือนในเขตเทศ บาลต.เขาสมิง หลังที่ว่าการอำเภอเขาสมิง มีระดับสูง 40-80 ซ.ม.
'น้ำปาด'พบศพที่5-หายอีก2
ที่จ.อุตรดิตถ์ นายโยธินศร์ สมุทรคีรีจ์ ผู้ว่าฯอุตรดิตถ์ กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีการค้นหาผู้สูญหายจากเหตุน้ำป่าไหลหลากดินโคลนถล่มในพื้นที่ ต.น้ำไผ่ อ.น้ำปาด ว่า กำลังเจ้าหน้าที่ชุดค้นหากว่า 400 นาย ได้กระจายกำลังค้นหาผู้สูญหายจากเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะต้องรื้อซากปรักหักพังของตัวบ้านออก และค้นหาในโคลนตมที่ทับถมบนตัวซากอาคารบ้านเรือนเสียหาย และค้นหาตามลำธารน้ำสะพานบ้านห้วยเดื่อที่กินเนื้อที่ระยะทางเกือบ 30 กิโลเมตร โดยมีสุนัขดมกลิ่นจากจังหวัดทหารบกอุตรดิตถ์ สุนัขจากศูนย์สงครามพิเศษและสุนัขจาก มูลนิธิชาติชาย ชุณหะวัณ จ.นครราชสีมา รวม 9 ตัว เข้าร่วมค้นหาในครั้งนี้ด้วย
![]() บน-ท่วมป่าโมก - น้ำในแม่น้ำเจ้า พระยาทะลักท่วมถนนสายอ่างทอง-อยุธยา (309) ใกล้ที่ว่าการอ.ป่าโมก จ.อ่างทอง แรงน้ำกัดเซาะไหล่ทางพังทั้งแถบ เมื่อ 12 ก.ย. ล่าง-เร่งสร้าง - จนท.เร่งสร้างสะพานในหมู่บ้าน อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ จุดที่ถูกน้ำ ป่าซัดพังเสียหาย เพื่อให้ชาวบ้านใช้สัญจรไปมาได้ ขณะที่สถาน การณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัดยังวิกฤต เมื่อ 12 ก.ย. |
ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ชุดค้นหาผู้สูญหายได้พบศพนางกัญญานี ซ้อมพิมพ์ อายุ 40 ปี บ้านเลขที่ 34 หมู่ 3 บ้านต้นขนุน จุดที่พบศพบริเวณเหนืออ่างเก็บน้ำคลองตรอนหรืออ่างห้วยแมง เขตอุทยานแห่งชาติคลองตรอน ต.น้ำไคร้ อ.น้ำปาด ห่างจากจุดดินโคลนถล่มในหมู่บ้านประมาณ 30 กิโลเมตร ก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่ชุดค้นหาและชุดกู้ภัยได้พบศพผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวแล้วจำนวน 4 ศพ ประกอบด้วย นางพริก อินดีสี อายุ 46 ปี นายประสิทธิ์ อินดีสี อายุ 48 ปี นายขาล คำไวย์ อายุ 64 ปี และนางปัน คำไวย์ อายุ 79 ปี ทั้งหมดเป็นราษฎรหมู่ 3 บ้านต้นขนุน เป็นหมู่บ้านที่ประสบอุทกภัยรุนแรงมากที่สุด รวมมีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์น้ำป่าไหล หลากและดินโคลนถล่มรวมทั้งสิ้น 5 ศพ ยังสูญหายอีก 2 คือ นายพา คำไวย์ อายุ 40 ปี และด.ช.ยิ่งศักดิ์ อินดีสี อายุ 5 ขวบ
'พิจิตร'น้ำซัดบ้านหายทั้งหลัง
ที่จ.พิจิตร พนังกั้นแม่น้ำน่านที่ หมู่ที่ 1 ต.ไผ่หลวง อ.ตะพานหิน ถูกน้ำเซาะ กว่า 20 เมตร น้ำทะลักเข้าท่วม บ้านเรือนกว่า 1 พันหลังคาเรือน และซัดบ้านนายสมควร บุญสะอาด อายุ 57 ปี หายไปทั้งหลัง คนในบ้าน 5 ชีวิตหนีตายจ้าละหวั่น ชาวบ้านต้องช่วยกันหนีน้ำ โดยไม่มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ทั้งนี้กระแสไฟฟ้าถูกตัด ขาด 3 หมู่บ้าน น้ำท่วมถนนทางหลวงหมายเลข 1118 ตะพานหิน-บางมูลนาก รถเล็กสัญจรไม่ได้
ต่อมากระแสน้ำดังกล่าวได้พัดบ้านอีก 2 หลัง คือบ้านนางบันหยัด บุญสะอาด อายุ 54 ปี และบ้านนางก้อน บุญรอด อายุ 71 ปี จนโย้เอียง จะพังปลิวไปกับน้ำ ทั้ง 2 หลัง ต้องนำเชือกขนาดใหญ่หลายเส้นมาผูกไว้กับต้นไม้ขนาดใหญ่เพื่อไม่ให้บ้านถูกน้ำพัดไป จนทำให้ชาวบ้านต้องอพยพขึ้นไปอยู่บนถนนเพราะเกรงจะเกิดน้ำป่าซัดบ้านอีก
นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าฯรฟท. เผยว่า ขณะนี้น้ำท่วมยังไม่ส่งผลกระทบต่อการเดินรถ แต่สั่งให้ระมัดระวังจุดเสี่ยงที่สถานีหอไกร และสถานีดงตะขบ จ.พิจิตร เพราะน้ำท่วมรางสูง 3 ซ.ม. ทำให้ต้องชะลอความเร็ว เหลือเพียง 5 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หากสูงเกิน 15-20 ซ.ม. จะประกาศหยุดวิ่งทันที เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ
เขื่อนสิริกิติ์ก็ลดพร่องน้ำ
ที่จ.พิษณุโลก นายบรรดิษฐ์ อินต๊ะ ผอ. โครงการชลประทานจังหวัดพิษณุโลก เผยว่า ทางชลประทาน และ ผู้ว่าฯพิษณุโลกได้ประสานขอให้เขื่อนสิริกิติ์ปรับการระบายน้ำลดลง จากเดิมระบายน้ำวันละ 65 ล้านลบ.ม. วันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา ระบายลดลงเหลือวันละ 60 ล้านลบ.ม. และในวันที่ 13 ก.ย.จะค่อยๆ ระบายน้ำลดลงเหลือวันละ 55 ล้านลบ.ม.
สุโขทัยจมดับเพิ่ม1
ที่จ.สุโขทัย สถานการณ์น้ำท่วมยังไม่คลี่คลาย และมีแจ้งเหตุ นายวรพงษ์ คงประจักษ์ อายุ 16 ปี อยู่บ้านไม่มีเลขที่ ม.5 ต.ปากน้ำ อ.สวรรคโลก เกิดลมชักจมน้ำเสียชีวิต ระหว่างเล่นน้ำที่ท่วมกับเพื่อน 4 คน บริเวณฝายน้ำล้นในหมู่ที่ 4 ต.ปาก น้ำ อ.สวรรคโลก ที่จ.กำแพงเพชร น้ำป่าทะลักท่วมขังในเขตเทศบาลตำบลพรานกระต่าย และถนนสายกำแพงเพชร-สุโขทัย สูง 40 เมตร
'โคราช'ผวาเขื่อนปล่อยน้ำ
ที่จ.นครราชสีมา ม.ล.อนุมาศ ทองแถม ผอ.สำนักชลประทานที่ 8 นครราชสีมา เผยว่า ขณะนี้อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย มีปริมาณน้ำ 92.48 ล้านลบ.ม. คิดเป็น 84.36 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอ่างเก็บน้ำลำตะคอง อ.สีคิ้ว มีปริมาณน้ำ 227.83 ล้านลบ.ม. หรือ 72.44 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งขณะนี้มีปัญหาการพร่องน้ำที่ทำได้ไม่มากนัก เพราะน้ำในพื้นที่ใต้เขื่อนมีปริมาณมากอยู่แล้ว หากเร่งระบายน้ำจะทำให้น้ำท่วมบ้านเรือนประชาชน และพื้นที่การเกษตร และน่าเป็นห่วงว่าหากมีมรสุมพาดผ่าน จนเขื่อนรับน้ำไม่ไหว จะเกิดน้ำท่วมใหญ่เหมือนปีที่ผ่านมา
ด้านนายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าฯ นครราชสีมา สั่งเฝ้าระวังพื้นที่รอบอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โดยเฉพาะ ต.หมูสี ต.ขนงพระ ต.หนองน้ำแดง ต.ปากช่อง อ.ปากช่อง ที่เป็นเส้นทางของน้ำจากอุทยาน และที่อ.ปักธงชัย ให้เร่งระบายน้ำออกมากกว่านี้ ไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำแล้ง เพราะน่าจะมีฝนตกมาอีก รวมทั้งที่ อ.ด่านขุนทด ให้ระมัด ระวังน้ำจากอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรด้วย
ขณะที่โรงเรียนบ้านสารภี ต.สารภี อ.หนองบุญมาก หลังคาอาคารเรียนถูกลมพายุพัดปลิวหลุดจากตัวอาคาร ทำให้อุปกรณ์การเรียนเปียกฝนเสียหาย จึงต้องหยุดเรียนระหว่างวันที่ 12-14 ก.ย.นี้
นายสุรวุฒิ เชิดชัย นายกเทศบาลนครนครราชสีมา ปฏิเสธข่าว เขื่อนลำตะคองปล่อยน้ำ พร้อมชี้แจงว่าเป็นเพียงข่าวจากเว็บไซต์ออนไลน์เท่านั้น โดยขณะนี้เขื่อนลำตะคองได้หยุดการระบายน้ำ เพื่อให้ปรับปรุงระบบท่อระบายน้ำ
'เลย'ดินถล่มทับบ้าน
ที่จ.เลย น้ำป่าจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ภูหลวง ไหลลงสู่แม่น้ำเลยล้นตลิ่งเข้าท่วมนาข้าวในเขตอ.ภูหลวง เสียหายหลายพันไร่ และที่ภูผาแดง ต.หนองคัน เกิดดินถล่มลงทับถนนสายสวนปอ-หนองคัน ใกล้น้ำตกห้วยเลา ทำให้ทางถูกตัดขาด และที่บ้านตาวตาด ต.เลยวังไสย์ เกิดดินถล่มทับบ้านเลขที่ 132 หมู่ 2 ของนายสำเนียง นิกรสุข แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
ที่จ.กาฬสินธุ์ เขื่อนลำปาวได้ระบายน้ำวันละ 9 ล้านลบ.ม. ทำให้พื้นที่ 4 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมือง อ.ยางตลาด อ.ฆ้องชัย และ อ.ร่องคำ ถูกน้ำท่วมนาเพิ่มอีก 5 พันไร่ ซึ่งได้แจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ราบลุ่มติดลำน้ำปาว ระวังน้ำไหลหลาก
'ร้อยเอ็ด'จม-คนแห่หาปลา
ที่จ.ร้อยเอ็ด น้ำในลำน้ำชีสูงขึ้นล้นตลิ่งและพนังกั้นน้ำเข้าท่วม ต.ดงสิงห์ อ.จังหาร นาเสียหายนับพันไร่ รวมทั้งท่วมโรงอิฐกว่า 30 โรง ต้องเร่งขนอิฐและเครื่องจักรหนีน้ำจ้าละหวั่น ประชาชนต้องอพยพมาอยู่บนถนนสายร้อยเอ็ด-กาฬสินธุ์ อย่างไรก็ตาม ชาวบ้าน ได้ระดมเครื่องมือจับปลา จับปลาที่มากับน้ำขายประทังชีวิต มีรายได้เฉลี่ยวันละ 300-500 บาท
ที่ต.นางาม อ.เสลภูมิ น้ำจำนวนมหึมาเกิดล้นตลิ่งไหลบ่าเข้าท่วมหมู่บ้าน พื้นที่นาจมน้ำ 1-2 เมตร เสียหายสิ้นเชิงกว่า 2 พันไร่ บ้านเรือนราษฎรถูกน้ำท่วมสูง 50-80 ซ.ม. จมน้ำ 40 หลังคาเรือน จาก 112 หลังคาเรือน วัด 1 แห่ง ประปาหมู่บ้าน 1 แห่ง ต้องปิดกิจการ และมีทีท่าว่าจะเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นวันละ 30 ซ.ม. ถนนเข้า-ออกหมู่บ้านระยะทาง 800 เมตร ถูกน้ำไหลเชี่ยวพาดผ่าน สูง 30-50 ซ.ม. เดือดร้อนไม่มีเครื่องอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะน้ำประปา
ที่จ.อุบลราชธานี ระดับแม่น้ำมูนเพิ่มขึ้นอีก ส่งผลให้ชาวบ้านในชุมชนหาดสวนยา และชุมชนหาดสวนสุข ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร ต้องอพยพมาสร้างเพิงพักชั่วคราวริมถนนสถิตย์ นิมานกาล ซึ่งเป็นถนนเชื่อมระหว่าง อ.เมือง กับ อ.วารินชำราบ ประมาณ 15 ครอบครัว
'พะโต๊ะ'ดินถล่มบ้านหวิดดับ
ที่จ.ชุมพร เจ้าหน้าที่รับแจ้งว่า ที่หมู่ 6 ต.ปากทรง อ.พะโต๊ะ เกิดเหตุดินภูเขาถล่มทับถนนทางหลวงหมายเลข 4006 ก.ม.ที่ 63-64 สูงร่วม 4 เมตร ทำให้การจราจรติดขัด สัญจรไปมาไม่ได้ ขณะที่ถัดจากจุดดังกล่าว 2 กิโลเมตร เกิดเหตุคอสะพานทรุดตัว จึงเร่งซ่อมแซม นอกจากนี้เจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุดินถล่มทับบ้านเรือนของนายทวี แจ่มใส หมู่ 4 ต.พะโต๊ะ อ.พะโต๊ะ ด้วย โดยนายทวี เผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 12 ก.ย. ตนและครอบครัวทั้ง 5 คนกำลังหลับ ได้ยินเสียงสะเทือนดังสนั่นจากหลังบ้านจึงรีบอุ้มลูก-เมียออกจากบ้าน พอพ้นบ้านแล้วจึงหันไปดู พบดินจากยอดภูเขาหลังบ้านกำลังไหลลงมาทับบ้านของตน จึงรีบนำลูกหลาน เมีย และน้อง ไปอาศัยเพื่อนบ้าน
'ระนอง-พังงา'ขาดแคลนน้ำดื่ม
ที่จ.ระนอง น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือน ริมคลองบางปรุ หมู่ 5 ต.กะเปอร์ อ.กะเปอร์ รวมทั้งฟาร์มไก่สมบัติฟาร์ม ต้องเร่งขนย้ายไก่กว่า 5 พันตัว รวมทั้งน้ำได้ท่วมสวนยาง และสวนปาล์มเสียหายหลายแห่ง
ที่จ.พังงา น้ำในแม่น้ำตะกั่วป่า ทะลักเข้าท่วมเทศบาลเมืองตะกั่วป่า เกิดดินเลื่อนไหลทับเส้นทางหลายจุดใน อ.ตะกั่วป่า อ.กะปง และ อ.ทับ ปุด ทำให้ราษฎรหมู่ที่ 3 ต.รมณีย์ อ.กะปง ไม่น้อยกว่า 20 ครอบครัว ถูกตัดขาดจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิง ไม่สามารถเดินเท้าเข้าไปช่วยเหลือได้ เริ่มขาดแคลนอาหารและน้ำดื่มแล้ว
'กระบี่'เรืองดออกจากฝั่ง
ที่ จ.กระบี่ อบจ.กระบี่ ประกาศงดเดินเรือโดยสารไปเกาะพีพี และเกาะลันตา ทุกเที่ยว หลังจากกรมอุตุนิยมวิทยาประกาศว่า ทะเลอันดา มันมีคลื่นลมแรง คลื่นสูง 2-3 เมตร และให้เรือเล็กงดออกจากฝั่ง ทั้งนี้การงดเดินเรือจะทำให้เกิดปัญหานักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปเกาะพีพี ต้องตกค้างที่ อ.เมืองกระบี่
นอกจากนี้เกิดน้ำป่าจากเทือกเขาพนมเบญจาไหลซัดถนนเสียหายกว่า 10 เมตร ชาวบ้านกว่า 30 ครอบครัว ถูกตัดขาด 3 เส้น คือ ถนนสายคลองเนียง-ควนผึ้ง สายคลองเนียง-คลองกลาง และบ้านคลองยวน-ต้นหาร ยังถูกรถไม่สามารถสัญจรไปมาได้
'สตูล-พัทลุง'พายุถล่มบ้านพัง
ที่ จ.สตูล น้ำท่วมบ้านเรือน 7 อำเภอ 147 หมู่บ้าน และยังมีดินสไลด์ ที่ ต.ทุ่งนุ้ย อ.ควน กาหลง รวม 9 จุด ที่ อ.ท่าแพ มีรายงานน้ำซัดบ้านเลขที่ 130 หมู่ 4 ต.ท่าแพ ของนายมูฮัมหมัด มูฮาเก็ม และต้นไม้ล้มทับบ้านของนายดลละ หมีดหรน ได้รับความเสียหาย
ที่ จ.พัทลุง ลมพัดแรงจนต้นทุเรียน อายุร่วม 100 ปี ได้โค่นลงมาทับบ้านเลขที่ 159 หมู่ 4 ต.บ้านนา อ.ศรีนครินทร์ ของนางราณี เตวยุรัง อายุ 49 ปี แต่โชคดีไม่มีใครรับบาดเจ็บ นอกจากนี้น้ำป่าไหลบ่าจากเทือกเขาบรรทัด ลงสู่ลำคลองตะโหมด อ.ตะโหมด กัดเซาะตลิ่งเป็นทางยาว และทำให้เกิดดินยุบตัว ตามริมลำคลองบริเวณหมู่ 3 ต.ตะโหมด อ.ตะโหมด ทำให้ศาลาหมู่บ้านและบ้านเรือนประชาชน ที่อยู่ริมลำคลองดังกล่าว จำนวน 3 หลัง เกิดยุบตัวลงประมาณ 1 เมตร ชาวบ้านจึงได้ช่วยกันใช้ไม้ค้ำยันตัวบ้านและศาลาหมู่บ้านเพื่อป้องกันไม่ให้พังถล่มลงมา
ที่ ต.ควนขนุน อ.ควนขนุน น้ำป่าหลากเข้าท่วมบ้านเรือนหมู่ที่ 5 และ 7 โดยเฉพาะพื้นที่เทศบาลตำบลหนองพ้อ หมู่ที่ 7 น้ำได้ไหลลงสู่บริเวณหน้าฝายกั้นน้ำบ้านหนองพ้อ และได้เอ่อล้นฝ่ายกั้นน้ำดังกล่าว ไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อยู่อาศัยริมคลองกว่า 15 ครัวเรือน
ปีตีเงินช่วยเหลือพระราชทาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สภานายิกาสภากาชาดไทย ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ท่านผู้หญิงฉัตรแก้ว นันทาภิวัฒน์ นางสนองพระโอษฐ์ในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เป็นผู้แทนพระองค์นำเงินพระราชทานจำนวน 5 แสนบาท มอบให้สภากาชาดไทย นำไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย
วันเดียวกันพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จไปทรงเยี่ยมราษฎรที่ประสบอุทกภัย ในพื้นที่ ต.โพนางดำตก อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ในการนี้ ประทานถุงยังชีพพระราชทาน จำนวน 1,000 ถุง แก่ราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย จำนวน 4 หมู่บ้าน และประทานถุงยังชีพพระราชทาน แด่พระภิกษุสงฆ์วัดคงคาราม จำนวน 6 ถุง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน
จากนั้นทรงเยี่ยมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่พระราชทาน ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ที่มาตรวจรักษาผู้ประสบภัยที่มีอาการเจ็บป่วย โอกาสนี้ ทรงเยี่ยมกลุ่มแม่บ้านงานครัว ประจำโครงการสายใยรักแห่งครอบครัว ในพระอุปถัมภ์ฯ ต.หนองเมือง อ.บ้านหมี่ จ.ลพ บุรี และ ต.โพนางดำตก อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ที่ได้รับพระราชทานวัตถุดิบในการประกอบอาหารกลางวันร่วมกันให้แก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัย
จากนั้น ประทับเรือท้องแบน ทรงเยี่ยมราษฎรที่อาศัยอยู่บริเวณริมตลิ่ง พร้อมประทานถุงยังชีพพระราชทาน และมีพระปฏิสันถารถึงสภาพชีวิตความเป็นอยู่ ตามพระอัธยาศัย ก่อนเสด็จยังที่ว่าการอำเภอป่าโมก ต.บางปลากด อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ประทานถุงยังชีพพระราชทาน จำนวน 600 ถุง แก่ราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย
ทั้งนี้ ที่จ.ชัยนาท ร.ต.ท.สมพงษ์ ชูกุศล ร้อยเวรสภ.สรรพยา ได้รับแจ้งพบผู้เสียชีวิต ที่บ้านเลขที่ 177 หมู่ 2 ต.หาดอาษา จึงรุดตรวจที่เกิดเหตุพบศพนางสมทรง ชื่นนิ่ม อายุ 59 ปี คาดว่าพลัดตกเรือจมน้ำเสียชีวิต
ตร.สั่งระวังโจรกรรมหลังท่วม
ที่ สตช. พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รรท.ผบ.ตร. เผยว่า ได้มีคำสั่งไปถึงผบช. และและรองผบช.ทุกภาคให้ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย อย่างสุดความสามารถ โดยให้พล.ต.อ. พงศพัศ พงษ์เจริญ ที่ปรึกษา 10 ลงไปช่วยดำ เนินการ ทั้งนี้กฎหมายเขียนไว้ชัดเจนว่า ผบก.ภ. จว.ต้องช่วยสนับสนุนผู้ว่าฯ โดยหลังน้ำท่วมอาจจะมีเหตุโจรกรรมตามมา เจ้าหน้าที่ต้องทำงานเต็มที่ มิฉะนั้นจะมีความผิดตามกฎหมาย





0 comments:
Post a Comment